วันที่ 1 มิ.ย.2567 นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่การรถไฟฯ ได้เปิดให้มีการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ในขบวนรถด่วนพิเศษและขบวนรถด่วน จำนวน 32 ขบวน ไปก่อนหน้านี้ตามนโยบายของ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้พี่น้องประชาชน  ล่าสุดการรถไฟฯ ได้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชน

โดยได้ขยายการให้บริการจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าสูงสุด 90 วัน ในขบวนรถเร็วขบวนรถนำเที่ยว และขบวนรถพิเศษโดยสารเพิ่มเติมอีก 26 ขบวน ครอบคลุมรถโดยสารทุกขบวนที่ต้องมีการสำรองที่นั่งล่วงหน้า ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
 

สำหรับรายละเอียดของขบวนรถ เพิ่มเติมทั้ง 26 ขบวน มีดังนี้

ขบวนรถเร็ว จำนวน 20 ขบวน ได้แก่
- ขบวนรถเร็วที่ 107/108 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เด่นชัย– สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 109/102 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 111/112 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – เด่นชัย – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 133/134 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 135/136 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 139/140 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 141/142 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – อุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 167/168 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – กันตัง – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 169/170 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – ยะลา – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

- ขบวนรถเร็วที่ 171/172 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สุไหงโก-ลก – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

ขบวนรถนำเที่ยว (ที่เปิดเดินประจำ) จำนวน 4 ขบวน ได้แก่
- ขบวนรถนำเที่ยวที่ 909/910 กรุงเทพ (หัวลำโพง) - น้ำตก - กรุงเทพ (หัวลำโพง)
- ขบวนรถนำเที่ยวที่ 911/912 กรุงเทพ (หัวลำโพง) - สวนสนประดิพัทธ์ - กรุงเทพ (หัวลำโพง)

ขบวนรถพิเศษโดยสาร จำนวน 2 ขบวน ได้แก่
- ขบวนรถพิเศษโดยสารที่ 997/998 กรุงเทพ (หัวลำโพง) - จุกเสม็ด - กรุงเทพ (หัวลำโพง)

ทั้งนี้ การรถไฟฯ คาดหวังว่าการขยายให้เปิดจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถวางแผนการเดินทางได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการเดินทางด้วยรถไฟอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้โดยสารสามารถจองและซื้อตั๋วโดยสาร ได้จาก 3 ช่องทาง ได้แก่  

ช่องทางจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ D-Ticket : https://www.dticket.railway.co.th ช่องทางจำหน่ายตั๋วผ่านสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ และช่องทาง Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย : 1690

นอกจากนี้ การรถไฟฯ ขอเชิญชวนให้ผู้โดยสารใช้บริการ ตรวจสอบสถานะ ตำแหน่ง และเวลาประมาณในการถึงจุดหมายปลายทาง ผ่านระบบ TTS (Train Tracking System) : https://ttsview.railway.co.th  เพื่อให้การเดินทางเกิดความสะดวกยิ่งขึ้น

โดยผู้สนใจเดินทาง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง