29 พ.ค. 67 นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วยสัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ จันทรังษี รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยสุขภาพสัตว์ และ นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ร่วมกันแถลงข่าวห้องประชุมเวียงเจ็ดลิน ชั้น 5 อาคารสำนักงานสวนสัตว์เชียงใหม่ กรณีที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (29 พฤษภาคม) เวลา 07.50 น. ได้เกิดเหตุการณ์จิงโจ้แดง เพศเมีย อายุ 2 ปี 6 เดือน ได้หลุดจากกรงโซนสัตว์ออสเตรเลีย สวนสัตว์เชียงใหม่ ระยะห่างจากประตูทางสวนสัตว์ประมาณ 300 เมตร วิ่งไปตามถนนขึ้นดอยสุเทพ ก่อนจะเตลิดเข้าป่าบริเวณข้างซอยสถานีวัดความสั่นสะเทือน กรมอุทกศาสตร์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย นำกำลังกว่า 20 นาย ปูพรมค้นหา แต่ยังไม่พบตัวจิงโจ้แดง พบแต่รอยเท้าที่บริเวณลำห้วยขุนช่างเคี่ยน

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า จิงโจ้แดงเพศเมียได้หลุดออกจากส่วนจัดแสดงบริเวณคอกกักด้านหลัง จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้เลี้ยง ทราบว่าจิงโจ้แดงอายุ 2 ปี ได้เดินสวนทางกับพนักงานเลี้ยงที่กำลังจะเปิดประตูคอกกักเข้าไปในส่วนจัดแสดง หลังจากนั้นได้ออกประตูหลังคอกกัก วิ่งกระโดดไปด้านหลังเข้าสู่ถนนด้านหน้าส่วนจัดแสดงบริเวณลิงไทย และโซนสัตว์ออสเตรเลีย

เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ติดตามไปเป็นระยะๆ ทำการกั้นบริเวณ แต่จิงโจ้แดงได้กระโดดและวิ่งออกนอกสวนสัตว์เชียงใหม่ วิ่งขึ้นดอยสุเทพตามเส้นทางถนน เข้าหมู่บ้านห้วยแก้ว ไปยังสถานีวัดความสั่นสะเทือน จังหวัดเชียงใหม่ กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ

นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย พร้อมได้รับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่จากสถานีวัดความสั่นสะเทือนจังหวัดเชียงใหม่ ระดมกำลังตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดพบร่องรอยของจิงโจ้แดงอยู่ในป่าบริเวณสถานีวัดความสั่นสะเทือนฯ เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย แต่ยังไม่สามารถจับได้

อย่างไรก็ตาม สวนสัตว์เชียงใหม่ได้จัดเจ้าหน้าที่ค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดรถพยาบาล ทีมสัตวแพทย์ เตรียมการบริเวณพื้นที่โดยรอบบริเวณสถานีวัดความสั่นสะเทือนฯ จนกว่าจะพบตัว

ล่าสุดได้เน้นย้ำผู้ช่วยผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่าย หัวหน้างานที่รับผิดชอบ ให้ทำงานด้วยความละเอียด รอบคอบมากยิ่งขึ้น ส่วนจิงโจ้แดงที่หลุดไป จะพยายามค้นหาอย่างเต็มกำลังความสามารถของเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะได้ตัวจิงโจ้แดงเพศเมียตัวนี้กลับมา

ในเบื้องต้น สวนสัตว์เชียงใหม่ได้รายงานไปยังองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นที่เรียบร้อย พร้อมได้รับการสั่งการให้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานที่ปลอดภัยและละเอียดรอบคอบต่อไป

ขณะที่สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ จันทรังษี รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์วิจัยสุขภาพสัตว์ กล่าวว่า สำหรับจิงโจ้แดงนั้นเป็นสัตว์ที่พละกำลังแข็งแรงมาก พลังกล้ามเนื้อค่อนข้างสูง ระยะกระโดดจะกระโดดได้ไกลและไวมาก โดยจิงโจ้จะอยู่ในสถานการณ์ตื่นตกใจและเตลิดได้ง่าย

ดังนั้นจะต้องใช้ความละมุนละม่อมถ้าหากพบตัว จะไม่แนะนำให้ไล่ ถ้าพบขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่กลับมา โดยทางเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์เข้าไปดูแลทำงานให้ใกล้เขามากที่สุด โดยเจ้าหน้าที่วางแผนยิงยาสลบ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ให้จิงโจ้แดงเตลิดที่สุด เพราะหากมีการใช้วิธีการอื่น อาจทำให้จิงโจ้แดงตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากระบบร่างกายของจิงโจ้แดงนั้นจะใช้พละกำลังจากกล้ามเนื้อ ซึ่งถ้าหากเกิดอาการตื่นตระหนกตกใจมากๆ จะทำให้ใช้พละกำลังมาก จะทำให้กล้ามเนื้อสลาย ทำให้ไตและหัวใจทำงานหนัก อาจทำให้ระบบไตและหัวใจวายได้ ถ้าหากไม่พบตัวจิงโจ้ภายใน 2-3 วัน มันอาจจะตายได้

นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กล่าวว่า ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้มีการปูพรมค้นหาอย่างต่อเนื่อง และพบร่องรอยของจิงโจ้แดงแล้วและตามรอยไปอยู่ตลอด โดยจะมีการใช้โดรนค้นหาพร้อมกันกับชุดลาดตระเวนให้เดินย้อนกลับมาด้วย พร้อมกันนี้ได้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนและผู้นำชุมชนด้วย หากใครพบให้แจ้งมาได้ทันที เพราะหวั่นว่าปล่อยไว้นานจิงโจ้แดงอาจได้รับอันตรายจากสุนัข ที่จ้องจะทำร้ายมันอยู่

สำหรับจิงโจ้แดงนั้น ปัจจุบันภายในสวนสัตว์เชียงใหม่มี 23 ตัว เพศผู้ 3 ตัว เพศเมีย 15 ตัว ไม่ทราบเพศอีก 5 ตัว เนื่องจากเป็นรุ่นลูก สวนสัตว์เชียงใหม่สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้จำนวน 2-4 ตัวต่อปี

อย่างไรก็ตาม หากใครพบเบาะแสจิงโจ้แดงนั้น สามารถแจ้งมาได้ที่เบอร์ นายภูพิชิต ช่วยบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย 089-5556444 และเบอร์นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ 081-5943547."