24 พ.ค.2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นอกจากการเตรียมการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในฤดูฝนแล้ว ขณะนี้หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยดำเนินการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติภัยอย่างเข้มงวด ให้เป็นไปตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้มีข้อกำชับให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

โดยในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมืองได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่มีโครงสร้างอาจก่ออันตรายหรืออาจเกิดอุบัติเหตุเมื่อเกิดลมพายุกระโชกแรง ทั้งจากการก่อสร้างที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือป้ายที่เก่าชำรุดไม่มีความมั่นคงแข็งแรงเพียงพอ

“กรมโยธาธิการและผังเมืองได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าทั่วประเทศมีป้ายขนาดใหญ่ที่เข้าข่ายต้องขออนุญาตอยู่ 12,347 ป้าย เข้าข่ายที่ต้องมีการตรวจทุก 3 ปี และต้องได้รับใบรับรองการตรวจป้าย หรือใบ ร.1 จำนวน 3,600 ป้าย แต่ขณะนี้พบว่ามีการตรวจไปประมาณ 2,400 กว่าป้าย ส่วนอีกพันกว่าป้ายไม่ได้ต่ออายุ หรือ ขาดอายุ ซึ่งท่านอธิบดีกรมโยธาฯ ได้กำชับให้โยธาธิการจังหวัดไปเรียนผู้ว่าจังหวัดนั้นๆ ให้มีการดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายที่เข้มงวด”

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยได้ดูแลตรวจสอบป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ให้มีการขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้ายตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. 2558 ซึ่งกรณีที่มีการก่อสร้างไม่เป็นไปตามกฎหมาย จะมีการออกคำสั่งระงับการก่อสร้าง สั่งห้ามใช้ป้าย สั่งให้ยื่นขออนุญาตหรือแก้ไขให้ถูกต้อง กรณีป้ายมีสภาพเก่าชำรุดบกพร่องอันอาจไม่ปลอดภัย จะให้แก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยทั้งหมดนี้หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม เจ้าพนักงานจะดำเนินการออกคำสั่งให้รื้อถอน รวมถึงแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นของเจ้าของป้ายหรือผู้ครอบครอง