วันที่ 19 พ.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และ พ.ต.ท.ธีวร์ราธิป ชูดวง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ สืบนครบาล

เข้าทำการจับกุมตัว นายสุวัฒน์ชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี หมอดูที่ใช้ฉายาว่า “จักรกรี เชียงใหม่” ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 152/2567 ลงวันที่ 21 มี.ค.67 ข้อหา “ฉ้อโกง และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”

โดยจับกุมได้ที่บริเวณร้านค้าแห่งหนึ่ง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 09.00 น.ที่ผ่านมา

ตรวจสอบในฐานระบบ ยังพบว่ามีหมายจับติดตัวอีก 4 หมาย ดังนี้ หมายจับศาลแขวงนครราชสีมา ที่ 24/2567 ลงวันที่ 1 ม.ค.67 ข้อหา “ฉ้อโกง การเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม ม. 14 วรรค 1 ที่มิได้กระทำความผิดต่อประชาชนแต่เป็นการกระทำความผิดต่อบุคคล”, หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 206/2566 ลงวันที่ 3 มี.ค.66 ข้อหา “ตัวการในข้อหาฉ้อโกง”,

หมายจับศาลสมุทรปราการ ที่ 141/2566 ลงวันที่ 28 ก.พ.66 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ฉ้อโกง กระทำด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ในระหว่างส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นไม่ได้มีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ หรือเพื่อบุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้”, หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ ที่ 417/2565 ลงวันที่ 5 ก.ย.2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง”

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาอาศัยช่องทางโซเชียลเฟซบุ๊กชื่อว่า Jakree Chaengmai (จักรกรี เชียงใหม่) รับดูดวง เมื่อผู้เสียหายสนใจดูก็จะออกกลอุบายว่า ผู้เสียหายดวงไม่ดีต้องทำการสะเดาะเคราะห์กรรมมีพิธีพราหมณ์ และอ้างว่าสามารถสื่อสารกับองค์เทพบนสวรรค์ได้ และจะทำพิธีเบิกบุญกรรมแก้กรรม โดยเริ่มจากการดูในราคา 199 บาท จากนั้นจะมีพิธีหลายขั้นตอน หากต้องการดวงดีให้ผู้เสียหายโอนเงินมาให้ เพื่อประกอบพิธี เริ่มจากหลักร้อย เพิ่มเป็นหลักพัน หลักหมื่น และหลักแสน จากนั้นผู้เสียหายก็ติดต่อบ่ายเบี่ยงและติดต่อยาก เมื่อผู้เสียหายทวงถามบ่อย ๆ ก็ติดต่อไม่ได้เลย

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับว่า ได้กระทำความผิดจริง โดยหลอกผู้เสียหายเป็นเวลา 2 ปี มีผู้เสียหายที่หลงเชื่อ หลักร้อยราย ความเสียหายหลักร้อยถึงหลักแสนแล้วแต่กำลังทรัพย์ของผู้เสียหาย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่ง สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีต่อไป