ปอศ.บุกทลายเพจปล่อยเงินกู้ ดอกเบี้ยโหดร้อยละ 500 ต่อปี พบเงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกับ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล และ ตม.จว.นครปฐม
ร่วมกันจับกุม นายจัน (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 , นายคม (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 และ นางสาว วัน (นามสมมุติ) อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ลงวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 สถานที่ตรวจค้นจับกุม บริเวณบ้านพัก ย่านอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี , บริเวณบ้านพัก อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร และบริเวณบ้านพัก อำพรานสามพราน จังหวัดนครปฐม พร้อมของกลาง โทรศัพท์ มือถือ จำนวน 7 เครื่อง , สมุดบัญชี จำนวน 8 เล่ม , สำเนาคู่มือรถ จำนวน 4 ชุด , โฉนดที่ดิน จำนวน 1 ฉบับ

แจ้งกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด”
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันเปิดปฏิบัติการ ปูพรมปราบปรามเงินกู้นอกระบบ รวบผู้กระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ พื้นที่จังหวัดนนทบุรี นครปฐม และมุกดาหาร จำนวน 3 จุด จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ตรวจยึดของกลางหลายรายการ

สืบเนื่องจากเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2567 น.ส.บี (นามสมมุติ) ผู้กล่าวหาได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ให้การว่า ช่วงต้นเดือน ธันวาคม 2564 ได้พบโฆษณาให้สินเชื่อเงินกู้ เพื่อการลงทุนและธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม facebook ใช้ชื่อว่า FVG money จึงได้ติดต่อสอบถามและติดต่อขอกู้เงิน และได้รับแจ้งจากเพจ ให้ติดต่อช่องแอด เมื่อ น.ส.บี(นามสมมุติ) ประสงค์จะกู้เงิน ต่อมาได้มีหนึ่งในผู้ต้องหา ได้เดินทางมาดูบ้านสถานที่ประกอบธุรกิจ สอบถามว่าต้องการใช้เงินเท่าไหร่ และได้ปล่อยเงินกู้ให้กับ น.ส.บี(นามสมมุติ) พร้อมกับถ่ายรูปบ้าน และสต๊อกสินค้าของที่อยู่ภายในบ้าน โดยบอกว่าจะปล่อยกู้ 100,000 บาท ขอหักค่าดำเนินการ 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยวันแรก 5,000 บาท คงเหลือโอนเงินให้ น.ส.บี (นามสมมุติ) ผู้เสียหายในคดีนี้เพียง 90,000 บาท มีกำหนดชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย วันละ 5,000 บาท มีกำหนด 24 วัน

หลังจากนั้น น.ส.บี (นามสมมุติ) ได้ส่งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาโดยตลอด จนกระทั่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนด นายคม (นามสมมุติ) ได้โทรศัพท์ทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ว่าจะมาทำร้ายร่างกายถึงที่บ้าน และข่มขู่ว่าจะทำอันตรายต่อร่างกาย ทำให้ น.ส.บี (นามสมมุติ) เกิดความหวาดกลัว จึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ กับเพจฯ เงินกู้ และบุคคลที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุด และเมื่อคำนวณดอกเบี้ยคิดเป็น ร้อยละ 506.94 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

จากการสืบสวนเส้นรายการเดินบัญชีของ นายคม (นามสมมุติ) พบว่า ได้มีนายจัน (นามสมมุติ) มีความเกี่ยวข้อง เป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบ โดยมีการโอนเงินให้กับผู้ต้องหาในลักษณะเป็นนายทุนเงินกู้ หลังจากนั้น นายคม (นามสมมุติ) ได้โอนเงินกู้ให้ น.ส.บี (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย ส่วนการชำระหนี้ น.ส.บี (นามสมมุติ) ได้โอนเงินชำระค่าดอกเบี้ยให้กับ นายคม (นามสมมุติ) ผ่านบัญชี น.ส.วัน (นามสมมุติ) โดยมีลักษณะการโอนผลประโยชน์เป็นทอดๆ ในลักษณะเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยแต่อย่างใด ต่อมาศาลอาญา ได้ออกหมายจับผู้ต้องหา  ทั้ง 3 ราย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้สืบทราบว่าบุคคลตามหมายจับ ทั้ง 3 รายพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี นครปฐม และมุกดาหาร จึงทำการขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี ศาลจังหวัดนครปฐม และ ศาลจังหวัดมุกดาหาร เข้าทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันทำ ผลการตรวจค้นจับกุมทั้ง 3 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ตรวจยึดเพื่อตรวจสอบ จำนวน 5 รายการ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่าปีละ 50 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลาง นำตัวพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป