วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลา 13:18 น.
9 พฤษภาคม 2567 กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยหน่วยงานภาคี ทั้งภาครัฐและเอกชน แถลงข่าวความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการจราจรบนถนนราชดำริ ตามโครงการ ‘ราชประสงค์โมเดล’ ซึ่งเป็นโครงการ นำร่องบูรณาการความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการจราจรและปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์
พร้อมทั้งนำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาบริเวณถนนราชดำริทั้งสองฝั่ง จากนั้นชมจุดบริการรถแท็กซี่และจุดปักหมุดของรถบริการผ่านแอปพลิเคชันที่ศูนย์การค้า ฯจัดเตรียมไว้รองรับด้วย
พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ย่านราชประสงค์เป็นพื้นที่เศรษฐกิจแหล่งทำการค้า แหล่งท่องเที่ยว และจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีปัญหาที่สะสมมายาวนาน ปัญหาหลักคือการจราจรที่ติดขัดเนื่องจากรถรับจ้างสาธารณะ แท็กซี่ และสามล้อส่วนหนึ่งที่จอดรถแช่ เพื่อรอรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวบริเวณช่องช้ายสุดทั้งสองฝั่งของถนนราชดำริ จนผู้ที่ใช้บริการรถโดยสาร-สาธารณะทั่วไปต้องเสี่ยงลงไปในเลนที่ 2 เพื่อขึ้นรถประจำทางที่ไม่สามารถเข้าป้ายได้ เกิดปัญหาความไม่ปลอดภัยตามมา
นอกจากนี้ กรณีรถแท็กซี่และสามล้อที่เรียกราคาแบบเหมาจ่าย การไม่กดมิเตอร์ ก็เป็นอีกปัญหาใหญ่ที่ต้องได้รับการแก้ไขเร่งด่วน เพราะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครเป็นอย่างมาก กรุงเทพมหานครจึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้ประกอบการย่านราชประสงค์และผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน จำนวน 10 บริษัท ร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง
โดยเริ่มตั้งแต่การปรับปรุงกายภาพของพื้นที่ ได้แก่ การจัดทำเครื่องหมายพื้นทาง Bus Stop ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการจอดรถแช่กีดขวางจุดจอดรับส่งผู้โดยสาร, การปรับเปลี่ยนเกาะสีสมมุติให้เป็นช่องจราจรเพื่อเพิ่มช่องการจราจรขึ้นอีก 1 ช่องจราจร, ปรับปรุงรั้วกันคนข้าม (สีเขียว) เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวเดินข้ามถนนในจุดที่มิใช่ทางข้ามหรือเรียกรถนอกจุดที่กำหนดไว้ ,การยุบรวมป้ายหยุดรถประจำทาง ให้เหลือเพียง 1 ป้าย เพื่อป้องกันการสับสนในการใช้บริการและลดปัญหาการจราจร
พร้อมทั้งขยายแนวรั้วให้กว้างขึ้นรองรับผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้นติดตั้งป้ายห้ามกลับรถ และการติดตั้งอุปกรณ์แบ่งช่องจราจร (Lane Block) ดำเนินการติดตั้ง Lane Block ระยะทางกว่า 500 เมตร บนถนนราชดำริทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออก เพื่อให้รถโดยสารประจำทางสามารถเข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารได้อย่างสะดวกและเกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการจราจรและขนส่ง ได้มีการติตตั้งกล้อง CCTV ซึ่งประมวลผลด้วยระบบ AIเก็บข้อมูลรถที่ฝ่าฝืนจอดในพื้นที่ห้าม โดยกำหนดขอบเขตพื้นที่ห้ามจอด หากพบรถที่จอดแซ่เกินระยะเวลาที่ระบบได้กำหนดไว้ถือว่าได้กระทำผิด และมีรูปแบบการรายงานผลแสดงวัน เวลา และสถานที่ในการฝ่าฝืนจอดอย่างละเอียด
สามารถจับภาพข้อมูลหมายเลขทะเบียนรถได้อย่างชัดเจน โดยข้อมูลที่ได้จากกล้อง CCTV จะถูกส่งไปยังสำนักการจราจร-และขนส่ง กรุงเทพมหานคร สถานีตำรวจพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตำเนินการทางกฎหมายต่อไป
โดยพบว่าก่อนติดตั้ง Lane Block มีรถที่ฝ่าฝืนจอดในช่องทางซ้ายจำนวน 489 คัน/วัน และหลังการติดตั้ง Lane Block พบรถที่กระทำผิดลดลง เหลือเพียง 45 คัน/วัน แต่ยังคงพบว่ามีประชาชนและนักท่องเที่ยวบางส่วน ยังเรียกใช้บริการรถแท็กซี่และสามล้อบริเวณหน้าศูนย์การค้าบนถนนราชดำริทั้งสองฝั่ง ทำให้ยังมีรถที่ฝ่าฝืนจอดแช่รอรับผู้โดยสาร และผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปยังคงสับสนและไม่กล้าใช้ช่องทางที่มีการติดตั้ง Lane Block เนื่องจากคิดว่าเป็นช่องรถประจำทางเท่านั้น จึงใช้ช่องทางอื่น ๆ แทน ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่
กรุงเทพมหานครจึงได้ดำเนินการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ แจ้งจุดจอดให้บริการรถแท็กซี่และรถสามล้อในพื้นที่ของศูนย์การค้า โดยจัดทำในรูปแบบ 3 ภาษา (ไทย -อังกฤษ -จีน) ติดตั้งบริเวณจุดจอดรถโดยสารประจำทางทั้งสองฝั่ง และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปได้ทราบว่าช่องทางซ้ายรถทุกประเภทสามารถเข้าใช้ได้ตามปกติ เพียงแต่ไม่สามารถจอดแช่ได้
พล.ต.ต.รวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่และพร้อมทำงานร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ในการบังคับใช้กฎหมายและมีบทลงโทษสำหรับผู้กระทำความผิด โดยจะเพิ่มความเข้มงวัดในการกวดขันวินัยจราจรและมาตรการลงโทษตามกฎหมายแก่ผู้กระทำผิดฝ่าฝืนจอดในพื้นที่ห้ามจอดต่อไป
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ร่วมลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อติดตามสถานการณ์และตรวจสอบการกระทำความผิดในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกดำเนินมาตรการด้านกฎหมายที่บังคับใช้กับผู้ขับรถสาธารณะในจุดดังกล่าว
ตัวแทนผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ คุณพิมพ์พร งามขจรวิวัฒน์ Asset Director (CTW) & Head of Business Transformation ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลต์ กล่าวว่า ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลต์ พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ จัดระเบียบและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับการรักษาความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ถนนราชดำริ
โดยมีจุดจอตรถรับ-สั่ง 3 จุด คือ
1) โซน Groove บริเวณด้านหน้า Groove ฝั่งถนนพระราม 1 จัดให้มีเจ้าหน้าที่ให้บริการข้อมูลจุดจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ
2) โซน Dazzle บริเวณประตูทางเข้าออกจากศูนย์อาหาร
Hug Thai จัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจดทะเบียนรถทุกคันที่ให้บริการลูกค้าเพื่อดูแลด้านความปลอดภัย,จุดให้บริการ Taxi : Application, จุดบริการ Grab Concierge Service อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและ ชาวต่างชาติ ที่ต้องการใช้บริการ Taxi service แต่ไม่มีอินเตอร์เน็ตและไม่ต้องการลง application Tourist Informationโดยเปิดให้บริการที่เคาน์เตอร์ Tourist Information Dazzle Zone (Hug Thai)
3) โซนบริเวณประตูทางเข้าออก ฝั่งศาลพระตรีมูรติ โดยศูนย์การค้าไม่ส่งเสริมรถแท็กซี่ที่ไม่คิดค่าบริการผ่านมิเตอร์
พร้อมกันนี้ ได้มีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลจุดจอดรถดังกล่าวให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการภายในศูนย์การค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพจ Centralworld, จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ และป้ายบอกทาง ติดทั่วบริเวณศูนย์การค้า และประกาศผ่านเสียงตามสาย ภายในศูนย์การค้าต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
คุณปณิดา สุขศรีดากุล ประธานเจ้าหน้าที่สายธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ริษัทบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บิ๊กซี ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยจัดให้มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปก.) ร่วมอำนวยการจราจรจร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกรุงเทพมหานครบริเวณทางเข้า-ออก และได้จัดจุดบริการรถสาธารณะสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการไว้อีก 1 จุด บริเวณชั้น 1
นอกจากนี้ ได้จัดทำป้ายรูปแบบต่างๆ ในการสื่อประชาสัมพันธ์ในบริเวณพื้นที่โดยรอบอาคาร บริเวณลานจอดรถ และจัดทำป้ายอัตราค่าโดยสารประชาสัมพันธ์บริเวณจุดรับ - ส่งเพื่อความเป็นระเบียบและป้องกันการกำหนดราคาที่ไม่เป็นธรรม
ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า นอกจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนแล้ว กรุงเทพมหานคร ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน ทั้ง 10 บริษัท ในการให้ความร่วมมือกำหนดจุดปักหมุดเพื่อจุดจอดรับ-ส่ง ในพื้นที่บริเวณถนนราชดำริในจุดที่กำหนดไว้ เพื่อไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว
เรียกใช้บริการรถที่จอดแช่บริเวณหน้าศูนย์การค้าทั้ง 2 ฝั่ง อีกทั้งได้กำชับผู้ให้บริการของบริษัท ตระหนักถึงปัญหาและไม่รับ-ส่ง นอกจุดที่กำหนด โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถรับจ้างสาธารณะผ่านแอปพลิเคชัน จำนวน 4 บริษัท ได้แก่Grab, Blot, Bonku, และ Maxim ซึ่งได้เริ่มดำเนินการและปักหมุดตามจุดที่กำหนดในระบบแล้ว และอีก 5 บริษัท ปังจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในต้านดังกล่าวร่วมกัน
"กรุงเทพมหานคร หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่กรุงเทพมหานครและกาคีต่าง ๆ พยายามริเริ่มในการแก้ไขปัญหานี้จะเกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืนซึ่งอาจต้องอาศัยระยะเวลาและความเข้าใจจากทั้งฝั่งของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะต้องเดินเท้าไกลจากจุดเดิมเพื่อไปขึ้นรถในจุดที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งมีความปลอดภัยและมีราคาที่เป็นธรรมและตัวผู้ขับขี่รถบริการสาธารณะเองก็ต้องเคารพในกฎระเบียบ และสิ่งสำคัญคือต้องอาศัยความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดผลกับผู้กระทำผิดอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งอาจจะยากในช่วงแรกของการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลง แต่เชื่อว่าหากทำจนเคยชินและเป็นที่ยอมรับร่วมกันแล้วจะเกิดผลเป็นที่น่าพอใจกับทุกฝ่ายซึ่งหากราชประสงค์โมเตล ที่ได้ร่วมกันผลักตันนี้เกิดประสิทธิภาพ ก็จะเป็นต้นแบบสำคัญในการขยายผลจัดการปัญหาการจราจรในจุดต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานครต่อไป" ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครย้ำในตอนท้าย
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน