วันที่ 5 พฤษภาคม 2567 เวลา 10:12 น.
จากกรณีมีชายฉกรรจ์ 3 คน บุกเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่งภายในซอยประชาสงเคราะห์ 2 หรือซอยสุทธิพร แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ พาชาวจีน 5 คน ออกจากห้องพักโดยสมอ้างว่าเป็นตำรวจ ก่อนรีดไถเงินจำนวน 65,000 USDT หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,500,000 บาท
ความคืบหน้าคดีวันนี้ (5 พ.ค.2567) พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนนครบาล ว่าได้ร่วมกันจับ น.ส.เนตร (นามสมมุตติ) อายุ 34 ปี ชาวสุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2057/2567 ลงวันที่ 4 พ.ค.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ , ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานฯ , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สิน
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า ยอมรับว่า เป็นลูกน้องของ “จ่าแจ็ค” หรือ จ.ส.ต.วีรยุทธ ซึ่งหลังจากได้รับการติดต่อจากกลุ่มผู้เสียหายชาวจีน จะเตรียมเครื่องรูดบัตรเพื่อไปพบกลุ่มผู้เสียหาย ก่อนได้แจ้งให้จ่าแจ็ค ทราบ และมีการวางแผนในการก่อเหตุ โดยบอกตนเองว่าจะได้ค่าตอบแทนที่สูงจึงตัดสินใจร่วมกระบวนการดังกล่าว
พฤติการณ์คือ น.ส.เนตร (นามสมมุตติ) จะถูกทำทีถูกจับตัวเช่นเดียวกัน เพื่อให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ โดยขึ้นรถยนต์คันที่ ส.ต.อ.ภูวเดช เป็นผู้ขับขี่ เมื่อได้เงินจากผู้เสียหายแล้วจ่าแจ๊ค จะสั่งให้แยกตัวออกไปรอที่ รร.แห่งหนึ่งใน ซ.วิภาวดี 60 ร่วมนายนภสินธุ์ และ ส.ต.อ.ภูวเดช ต่อมาหลังร่วมกันก่อเหตุสำเร็จ น.ส.เนตร (นามสมมุตติ) ได้รับโอนเงินเข้ามาในบัญชี 350,000 บาท จากนั้นได้โอนต่อให้นายนภสินธุ์ ไป 40,000 บาท.