30 เมษายน 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน  เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2567  เกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในภาคกลางของเคนยา คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 45 ราย บาดเจ็บกว่า 110 ราย ขณะที่น้ำท่วมกวาดบ้านเรือนและรถยนต์ในเมืองไม มาฮิอู รัฐบาลได้ออกมาระบุถึงสาเหตุของน้ำท่วมฉับพลันในครั้งนี้ว่ามาจากเขื่อนแตก ในเมืองทางตอนเหนือของกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ขณะที่กระทรวงน้ำของเคนย่า ระบุในเวลาต่อมาว่ามีสาเหตุมาจากอุโมงค์แม่น้ำใต้เขื่อนทางรถไฟมีเศษซากปิดกั้น  เหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เคนยาเผชิญฝนตกหนักทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายเอ่อล้น ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงฉับพลัน

เหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมทั่วเคนยาจากฝนตกหนักและน้ำท่วมตั้งแต่เดือนที่ผ่านมารวมกว่า 140 ราย มีผู้พลัดถิ่นแล้วมากกว่า 185,000 คน ในเมืองหลวงไนโรบีเพียงแห่งเดียว ผู้คนเกือบ 10,000 คนต้องอพยพออกจากบ้าน ประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต กล่าวกับรอยเตอร์ในการให้สัมภาษณ์ โดยอธิบายว่าทุกคนที่ได้รับผลกระทบเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เนื่องจากรูปแบบสภาพอากาศเอลนีโญ ทำให้ปริมาณน้ำฝนตามฤดูกาลรุนแรงขึ้น โดยน้ำท่วมทำลายถนนและสะพานทั่วประเทศ ทางการท่าอากาศยานเคนยา ระบุว่า ถนนสายหนึ่งที่สนามบินนานาชาติในกรุงไนโรบี ถูกน้ำท่วม แต่เที่ยวบินยังคงให้บริการตามปกติ ขณะเดียวกันรัฐบาลได้เลื่อนการเปิดภาคเรียนใหม่ออกไป 1 สัปดาห์

ขอบคุณข้อมูลจาก reuters