วันที่ 29 เมษายน 2567 เวลา 11:13 น.
29 เม.ย.2567 ภายหลังจากที่ "นายปานปรีย์ พหิทธานุกร" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็น ครม.ชุดใหม่ ภายใต้รัฐบาล "เศรษฐา ทวีสิน" แค่ไม่กี่ชั่วโมง หลายคนจับตาหลังถูกริบตำแหน่ง รองนายกฯ และเหลือแค่ ตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ ตำแหน่งเดียว เช้าวันนี้เมื่อเวลา 08.10 น ที่ทำเนียบรัฐบาลผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดห้องสีม่วงบนตึกไทยคู่ฟ้าชี้แจงต่อสื่อมวลชน ระบุว่า เคารพการตัดสินใจที่ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ลาออก ยอมรับการตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ครั้งนี้ย่อมมีผู้ที่เสียใจผิดหวัง
"กรณีของนายปานปรีย์ หากทำให้เสียใจก็ขอโทษ ยืนยันได้พูดคุยกับนายปานปรีย์ก่อน เผยกำลังพิจารณาและประสานให้คนใหม่เข้ามาทำหน้าที่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ขอยังไม่เปิดเผยยอมรับเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง การทำงานของพรรคเพื่อไทย สำหรับกรณีของรัฐมนตรีที่ถูกปรับเปลี่ยน กำลังพิจารณาหาตำแหน่งเก้าอี้ที่เหมาะสมเพื่อช่วยในการทำงานเป็นทีมไทยแลนด์ ส่วนที่มีการมองว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ผิดฝาติดตัว ก็แล้วแต่คนจะมองแต่ตนมั่นใจว่าถูกฝาทุกตัว"
โดยในช่วงบ่ายวันนี้จะเชิญ ว่าที่ รมว.คลังคนใหม่และอธิบดีกรมบัญชีกลางเข้าหารือ การใช้จ่ายงบประมาณปี 2567
สำหรับผลงานของนายปานปรีย์ ที่ผ่านมานั้น มีผลงานที่น่าสนใจหลายเรื่อง เช่น การผลักดันการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ บรรจุใหม่ โดยเฉพาะผู้จบปริญญาตรี จะมีอัตราเงินเดือนแตะ 18,000 บาทต่อเดือน ,การแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการสองงวด ,การผลักดันประเทศไทย ในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ OECD
ขณะที่ผลงานด้านการต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางเจรจาความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และความมั่นคงกับชาติมหาอำนาจหลายประเทศ เพื่อการดึงดูดการค้าและการลงทุนระหว่างกัน รวมถึงการเจรจาเรื่องของการให้ฟรีวีซ่า ในประเทศสำคัญของไทย ทั้งจีน และอินเดีย