หน้าแรก > อาชญากรรม

สืบนครบาล ล่า รวบ กลางถนน 'แดนหัวใจระเบิด' ล่อลวงเด็ก ถ่ายคลิปบังคับเสพกัญชา ลั่น “ตำรวจทำอะไรไม่ได้”

วันที่ 28 เมษายน 2567 เวลา 11:21 น.


ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนผู้สุจริตสร้างความหวาดกลัว  

เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่สืบนครบาลร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายเจษฎา (นามสมมติ)  หรือ แดนหัวใจระเบิด อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.352/2567 ลงวันที่ 25 เมษายน 2567 โดยกล่วหาว่า “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้” จับกุมได้ที่ ภายใน ซ.จรัญสนิทวงศ์ 85 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด จ.กรุงเทพฯ

พฤติการณ์กล่าวคือ “กฎหมายก็แค่เสียตัง...บ้าน...ใหญ่...ตำรวจทำอะไรไม่ได้” แชทสนทนาของนายแดนหัวใจระเบิดที่ส่งมาข่มขู่เด็กสาววัย 17 ปี หลังจากที่ได้เผยแพร่คลิปลับของเธอในโลกโซเชียล ก่อนจะข่มขู่เธอหวังจะให้เธอกลับมีสัมพันธ์ด้วยอีกครั้ง แต่เธอไม่ยอมแล้วจึงไปแจ้งความดำเนินคดี  

ทำให้ผู้ก่อเหตุรายนี้ตามราวีเธอจนตกอยู่ในความเครียด เธอยอมรับว่าต้องนอนร้องไห้ทุกคืน และไม่มีจิตใจที่จะสามารถใช้ชีวิตอย่างปกติ  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันวาเลนไทน์ปี 2567

จนล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน ได้ออกหมายจับคนร้ายรายนี้แล้วคือ นายเจษฎา (นามสมมติ) หรือ “แดนหัวใจระเบิด” อายุ 18 ปี เธอได้ขอความช่วยเหลือมาที่เพจสืบนครบาลให้ช่วยติดตามจับกุมเพราะเจ้าตัวหนีสุดชีวิต ซึ่งเมื่อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ทราบเรื่องและนำแฟ้มคดีมาตรวจสอบวิเคราะห์พฤติกรรมความเลวของคนร้ายรายนี้ 

เชื่อว่าไม่น่าได้ก่อเหตุมาเพียงครั้งเดียวอาจจะมีเหยื่อรายอื่นๆอีก จึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะออกไล่ล่า กว่า 18 ชั่วโมงของการลาดตระเวนชุดสืบสวนก็พบเบาะแสว่าคนร้ายจะไปเสพกัญชาอยู่ที่ย่านจรัญสนิทวงศ์

ชุดสืบสวนวางกำลังในพื้นที่จนพบตัวคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ออกมาจากซอย “คนนี้แหละค่ะ” เสียงจากผู้เสียหายยืนยันว่าคือคนร้าย การไล่ล่าบนท้องถนนจึงเกิดขึ้น ชุดสืบสวนขับขี่ไล่ล่าไปถึงบริเวณ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 85 แล้วเกิดไหวตัวทัน หักหัวกลับรถกะทันหันเพื่อหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถปาดหน้าและเข้าชาร์จจับกุมตัวกลางถนนทันที 

โดยหลังจับกุมตัวตามหมายจับชุดสืบสวนไปตรวจค้นบ้านพักทำให้ชุดสืบสวนได้พบกับเด็กสาววัย 14 ปี ที่ถูกคนร้ายล่อลวงมา ซึ่งเมื่อชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่า Miss Call ในโทรศัพท์ของเด็กสาววัย 14 ปี มีญาติของเธอพยายามติดต่อกับเธอเกือบ 100 สาย 

โดยความไร้เดียงสาของเด็กสาวยังพยายามที่จะปกป้องคนร้ายโดยอ้างว่าความผิดทุกอย่างอยู่ที่เธอ ชุดสืบสวนรีบติดต่อไปยังผู้ปกครองของเด็กสาวทำให้ทราบว่า เด็กสาวรายนี้เธอหลบหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่วันสงกรานต์ปี 67 ซึ่งเมื่อชุดสืบสวนขุดคุ้ยไปอีกก็พบว่าคนร้ายได้ถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กสาวไว้จำนวนมาก และยังมีการแชทสนทนาเพื่อขายคลิปลับเหล่านี้อีกด้วย

หลังการตรวจค้นจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ได้ขยายผลการจับกุมจนทราบว่าตลอดเวลาที่คนร้ายล่อล่วงเด็กสาวรายนี้มานั้น ได้ลงมือกระทำชำเรา , ถ่ายคลิปวีดิโอ และยังบังคับให้เสพกัญชา เดชะบุญที่ชุดสืบสวนได้ส่งตัวเด็กสาววัย 14 ปี รายนี้กลับคืนสู่อ้อมกอดผู้ปกครองอย่างปลอดภัยแล้ว  นำตัวผู้ต้องหาส่งสน. บางขุนเทียนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในชั้นจับกุม นายผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เรื่องที่เป็นคดีเกิดขึ้นประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2566  ตอนนั้นตนได้คบกับผู้เสียหายในคดีนี้ อายุ 17 ปี คบหากันได้ประมาณ 9 เดือน ก็ไปมาหาสู่รักกันปกติ จนประมาณเดือนมกราคม 2567 ตนเกิดนอกใจผู้เสียหาย ไปมีสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งจนถูกผู้เสียหายจับได้ ผู้เสียหายจึงขอเลิกกับตน แต่ด้วยความรักที่ตนมีให้ผู้เสียหายทำให้ไม่อยากเลิกคบกัน จึงขู่กับผู้เสียหายว่า ถ้าเลิกกันจะโพสรูป และ คลิป ของผู้เสียหายให้คนอื่นเห็น 

โดยใช้คำพูดว่า "ถ้าไม่กลับมา จะเอารูปและคลิปของไปโพสในทวิตเตอร์ และในเฟซบุ๊ก" แต่ผู้เสียหายไม่ยอมกลับมาคืนดีด้วย ทำให้ตนโกรธมากที่ผู้เสียหายไม่ยอมกลับมา จึงเอารูปของผู้เสียหายไปโพสลงในคอมเมนท์เฟซบุ๊กของผู้เสียหาย ให้คนอื่นเห็น เพื่อให้ผู้เสียหายอับอายและยอมกลับมาคืนดีกับตน 

แต่เมื่อโพสต์ไปแล้วผู้เสียหายได้พาผู้ปกครองเข้าแจ้งความที่สน.บางขุนเทียน แต่ตนก็โต้ตอบไปแชทผู้เสียหายว่า "ไม่กลัว ตำรวจทำอะไรไม่ได้หรอก อาเป็นตำรวจ พี่ก็เป็นทหาร อย่างมากก็แค่เสียเงิน "

จากนั้นผู้เสียหายจึงดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ตนก็ยังไปเยาะเย้ยผู้เสียหายอีกว่า "ตำรวจจับกูไม่ได้หรอก กูไม่อยู่บ้านยังไงตำรวจก็หากูไม่เจอ" ตอนนั้นตนยอมรับว่าทำไปพูดไปเพราะความโกรธและความคึกคะนอง ไม่มีญาติเป็นตำรวจหรือทหารแต่อย่างใด 

ในชั้นจับกุม ตนยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดตนทำผิดจริง เกิดความสำนึกผิด จึงให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาส่วนเด็กสาวที่เจ้าหน้าที่พบที่บ้านพักนั้น ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นแฟนใหม่ของตน เพิ่งเจอกันเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา จากนั้นได้คบหากันเป็นแฟนกันโดยที่พ่อแม่ผู้ปกครองของแฟนตนไม่ทราบ 

โดยให้แฟนใหม่ของตนโกหกที่บ้านว่า ปิดเทอมขอไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนผู้หญิง จากนั้นจึงมาอยู่กินกับตนเรื่อยมาตั้งแต่หลังสงกรานต์ โดยไม่ให้แฟนใหม่ของตนรับโทรศัพท์จากผู้ปกครอง เพราะไม่อยากให้ทราบเรื่อง ซึ่งเมื่อมาเจอแฟนใหม่รู้สึกดีกว่าแฟนเก่า(ผู้เสียหายในคดี)เยอะ ทำให้ลืมแฟนเก่า(ผู้เสียหายในคดี) โดยตนยืนยันว่าขอไม่ไปคืนดีกับแฟนเก่า(ผู้เสียหายในคดี) อีก

ตรวจสอบประวัติเคยก่อเหตุ 3 คดี คือ 1.ปลายเดือน มี.ค. 67 ได้ก่อเหตุใช้มีดแทงวัยรุ่นที่บริเวณสะพานพุทธยอดฟ้า , 2.ต้นเดือน เม.ย. 67 ก่อเหตุขโมยยาบำรุงเซ็กซ์ใน 7-11 สาขาซอยพระราม 2 ซอย 20  และ 3.กลางเดือน เม.ย. 67 ก่อเหตุรุมทำร้านนายตู้ฯ ที่เอกชัยซอย 8 ส่วนที่ตนเองมีฉายาว่าแดนหัวใจระเบิดเพราะว่าสักลายรูปหัวใจระเบิดบริเวนหน้าอก แต่ยังสักไม่เสร็จเพราะช่างเกมที่สักให้ถูกสืบนครบาลจับไปเมื่อวันก่อนที่ จ.ภูเก็ต”  หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.กล่าวว่า “พฤติกรรมของคนร้ายถือว่าไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ท้าทายอวดอ้าง ถือเป็นภัยต่อเด็กและเยาวชนอย่างยิ่ง ตัวเค้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการกระทำเช่นนี้นั้นสร้างบาดแผลในจิตใจเด็กเพียงใด การแบล็กเมลล์เปิดคลิปลับของเด็กสาวลักษณะนี้มันแทบจะทำให้เหยื่อสาวตายทั้งเป็นได้เลย 

ยิ่งกว่านั้นชุดจับกุมยังไปพบว่าปัจจุบันยังอยู่กินอาศัยกับเด็กสาววัยเพียง 14 ขวบ ซึ่งไร้เดียงสามาก ถูกล่อลวงจนกระทั่งแม้แต่ตอนจับกุมเค้ายังพูดปกป้องตัวคนร้าย เด็กไม่ว่าอย่างไรก็คือเด็ก ความไม่เข้าใจในเรื่องของความรัก มันจึงต้องมีกฏหมายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุ้มครองให้กับเด็กเหล่านี้ เพื่อมิให้เหล่าคนร้ายใช้ความไร้เดียงสาของเด็กมาสนองตัณหาของตัวเอง และทำลายอนาคตของเด็ก

จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ปกครองทั้งหลาย โปรดเพิ่มความใส่ใจในตัวบุตรหลานของท่าน อย่าไว้วางใจและคลาดสายตา แม้แต่กระทั่งคนใกล้ชิด ซึ่งหากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิด โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม