จับอดีตกุ๊ก ตระเวนลักทรัพย์วันเดียว 4 ครั้งรวด ผู้เสียหายชี้ตัวด่ายับหลังแมวเปอร์เซียที่เลี้ยวหลุดออกจากบ้าน จ.นนทบุรี

เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 25 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเรน (นามสมมุติ) อายุ 44 ปี ชาว อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี พร้อมของกลาง รภจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น คลิก สีแดง ทะเบียน กทม. กระเป๋าสีเขียว กางเกงขายาว และรองเท้าผ้าใบสีดำ โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จับกุมตัวได้ที่ ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยหลักทอง 3 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายเป็นชาย อายุ 65 ปี ว่าถูกคนร้ายลักรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีแดง ทะเบียน กทม. ราคา 30,000 บาทไป เหตุเกิดที่หน้าร้านสะดวกซื้อตรงข้ามโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซอยประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 67 เวลา 19.10 น.

หลังรับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดร้านสะดวกซื้อ พบชายต้องสงสัยถือกระเป๋าสีเขียว ซึ่งตรงกับรูปพรรณชายที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ว่า ถูกคนร้ายเข้าไปลักโทรศัพท์มือถือ ที่ซอยงามวงศ์วาน 23 จึงได้ทำการตรวจสอบประวัติ พบว่าผู้ต้องหาก่อเหตุวันเดียว 4 ราย คือ

1. ลักโทรศัพท์มือถือ ที่งามวงศ์วาน 23 ต.บางเขน เวลา 14.00 น. 
2. ลักโทรศัพท์มือถือ และกุญแจรถจยย. ของร้านก๊วยเตี๊ยว ตลาดประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย เวลา 14.50 น. 
3. ลักเครื่องเล่นไอแพด แอร์ 5 ร้านซักผ้า ซอยงามวงศ์วาน 27 ต.บางเขน เวลา 16.55 น. 
4. ลักจยย.ตรงข้ามโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี ก่อนนำรถไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถหลังห้างเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์

ภาพจากกล้องวงจรปิดร้านสะดวกซัก ซอยงามวงศ์วาน 27 บันทึกภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 16.57 น. เป็นชายรูปร่างสูง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว สวมกาเกงขายาวสีดำ ถือกระเป๋าสีเขียว เดินเข้ามาหยิบ iPad ที่วางอยู่บนโต๊ะขณะผู้เสียหายหันหลังเอาผ้าออกจากเครื่องซักผ้า จากนั้นได้หลบหนีไป  กล้องวงจรปิดอีกมุมยังจับภาพคนร้ายได้ขณะลักiPad

กล้องวงจรปิดจากร้านค้าในซอยงามวงศ์วาน 27 ใกล้ร้านสะดวกซัก จับภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 16.56 น. ขณะคนร้ายเดินผ่านร้านสะดวกซักได้หันไปมองในร้านซักผ้า จากนั้นคนร้ายได้หันหลังเดินกลับไปทางเดิมอีกครั้ง คาดว่าน่าจะมองเห็น iPad ก่อนที่จะหยุดที่มุมภาพด้านบน แล้วเดินวกกลับมาข้างรถยนต์สีขาว จากนั้นเลี้ยวเข้าไปในร้านสะดวกซักก่อเหตุลัก iPad ก่อนจะรีบเดินออกจากร้านสะดวกซักข้ามถนนหลบหนีไป

กล้องวงจรปิดที่ร้านขายโทรศัพท์ ปากซอยงามวงศ์วาน 27 จับภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 17.18 น. โดยคนร้ายได้นำ iPad มาขายแต่ขณะนั้นมีลูกค้าคนอื่นอยู่ หลังจากลูกค้าออกจากร้านไป คนร้ายได้เอา iPad เขาไปเสนอขายแต่ทางร้านไม่รับซืัอ

กล้องวงจรปิดบริเวณตลาดประชานิเวศน์ 3 จับภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 17.28 น. คนร้ายแต่งกายด้วยชุดเดิม ถือกระเป๋าสีเขียว เดินลัดเลาะเข้าออกตามซอย ก่อนที่จะเดินไปร้านสะดวกซื้อหน้าโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์ ซึ่งในระหว่างทาง คนร้ายได้ลักที่ทุบน้ำแข็ง และลักของที่ร้านขายข้าวต้ม แต่เจ้าของไม่ได้แจ้งความ จนล่าสุดเวลา 18.57 น.คนร้ายได้ก่อเหตุลักรถจยย.ที่หน้าร้านสะดวกซื้อหลบหนีไป 

น.ส.พลอย (นามสมมุติ)  อายุ 25 ปี เจ้าของโทรศัพท์ ซอยงามวงศ์วาน 23 เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา ได้กล่าวอย่างมีอารมณ์ฉุนเเฉียวเมื่อเจอหน้าผู้ต้องหา ว่า สภาพพี่ติดยาชัดๆเลย ไม่ต้องมาพูดหรอกว่าพี่ตกงานดูสภาพตัวเองสิ ยังปล่อยแมวตนออกไปจากบ้าน ราคาตัวเป็นหมื่นออกไปข้างนอก สิ่งของตนไม่เสียดาย ถ้ารถเหยียบแมว ถ้าแมวตายมีปัญญาชดใช้หรือเปล่า ตนต้องตีรถกลับมาจากแม่กลองเพื่อกลับมาบ้าน เสียงานเสียการเป็นหมื่น เพราะมึงเข้าบ้านกู แต่งตัวดูดีแต่มึงทำอย่างนี้หรือ ติดยาก็บอกว่าติดยาไม่ใช่บอกว่าตกงาน แมวที่ปล่อยไว้เป็นพันธุ์เปอร์เซียซินเทอร่า ราคาตัวละเป็นหมื่น ซึ่งขณะนี้เจอแมวแล้วเพราะชาวบ้านเขาจับไว้ให้ ถ้าเขาไม่จับไว้ให้แมว 2 ตัวโดนรถเหยียบตาย จะมีปัญญาชดใช้หรือเปล่า ตนเลี้ยงแมวเหมือนลูก เลี้ยงมาหมดเงินไปเป็นแสน งานการไม่ทำสูบแต่ยา สภาพยังดัดอยู่เลย บ้านวันนั้นแฟนตนไม่ได้ล็อคบ้านแต่ล็อคประตูรั้วไว้ คนร้ายเข้าไปหยิบโทรศัพท์ซึ่งตนใช้ทำเป็นกล้องไว้ดูแมวที่เลี้ยงไว้ ยังมีภาพคนร้ายติดอยู่ในกล้องโทรศัพท์ เป็นชายสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ถือกระเป๋าสีเขียว จากนั้นกล้องได้ออฟไลน์ไป

น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนไปซักผ้าที่ร้านสะดวกซักจึงวาง iPadไว้บนโต๊ะ แล้วเอาผ้าออกจากถังซักผ้าเพื่อเอาเข้าอบ เมื่อกลับออกมาดู iPad หายไปแล้ว ก็เลยถามพี่คนที่เข้ามาในร้านและขอยืมโทรศัพท์เขาเพื่อโทรหาเจ้าของร้าน เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดก็เห็นว่าคนร้ายเป็นใคร ซึ่งแม่ตนเดินมาพอดีจึงบอกแม่ให้แจ้งตำรวจ ที่ได้คืนมาเพราะไปตามร้านโทรศัพท์หลังจากทราบว่าเขาเอาไปขาย โดยตามจาก iCloud จุดล่าสุดอยู่ตรงหมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 จึงถามร้านแถวนั้นว่าเคยเห็นคนร้ายไหม ซึ่งเขาบอกว่าเห็น จนไปเจอที่ร้านตรงมุมตลาด เขาบอกว่ามีคนเอามาขายในราคา 3,000 บาท ตนก็ไปซื้อคืนกลับมา แต่ได้คืนไม่ครบยังมีเคสกับปากกา iPad หายไปราคา 4,990 บาท

จากการสอบสวนนายเรน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า  ตนกำลังเดินกลับที่พัก พอดีเห็นกุญแจเขาวางไว้แล้วเข้าไปในร้านเซเว่น ตนเลยขี่รถเขามาเลย แต่ก็ยังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงจะเอาไปคืนยังไง ตนก็เลยตัดสินใจเอาไปคืนโดยจอดรถไว้ตรงลานจอดรถห้าง วันนั้นยอมรับว่าเสพยาบ้าไป 3 เม็ด ซื้อมาราคาเมตรละ 20 บาท ยอมรับว่าที่ทำไปผิด ไม่เคยทำมาก่อนทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งตนทำงานเป็นกุ๊กอาหารจีน เพราะมีเงินเดือน 15,000-20,000 บาท แต่อยากออกมาค้าขายมากกว่า เพราะว่ากุ๊กได้เงินเดือนก็จริงแต่ไม่พอทางบ้านแย่แม่ก็ป่วย ตนลาออกมาก็มาทำขายห่อหมก ขายได้ 3 วันได้กำไรวันละ 700-800 บาท ก็เก็บไว้เพื่อจะนำเงินส่งให้แม่ ตนต้องเช่าบ้านอยู่ เจ้าของบ้านเขาก็ยังไม่คิดค่าเช่า เขาช่วยหุงข้าวช่วยทำห่อหมก ตนจึงให้เงินเขาวันละ 300 บาทตอบแทน  หลังจากตนขโมยรถจยย.มาตนก็มานั่งคิดว่าจะทำยังำง ตนไม่คิดที่จะเอาไปขาย ก็เลยเอาไปจอดทิ้งไว้หากเจ้าของเขามาเจอ หรือมีคนเจออาจส่งคืนเจ้าของ ตนคิดแบบนี้เพราะสงสารเขา ยังไงตนก็ไม่ขายเพราะเอกสารรถก็ยังอยู่ในรถ

เบื้องต้นหลังสอบปากคำ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อเตรียมส่งฝากขังและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป