วันที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 20:58 น.
นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ปรับปรุงห้องน้ำในโรงเรียน และให้นักเรียนและครู สามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อความเท่าเทียม
โดยนายเอกชัย ระบุเป็นการแก้ปัญหาแบบหลงทาง แทนที่จะฝึกเด็กให้เกียรติครู ยกย่องให้ครูไม่ปะปนกับนักเรียน มีสัมมาคารวะที่เหมาะสมกลับบอกว่าทุกอย่างต้องเท่าเทียม ตนคิดว่าสิ่งที่ต้องแก้ไขคือห้องน้ำเด็กนักเรียนสกปรกมากจริงๆไม่ถูกสุขลักษณะ ทั้งมีน้ำดื่ม น้ำกิน น้ำใช้ไม่เพียงพอ ทำอย่างไรต้องซ่อมแซมห้องน้ำให้อยู่ในสภาพดีเท่าเทียมห้องน้ำครู มีน้ำสะอาดดื่ม ใช้ อย่างเพียงพอ ไม่ใช่ห้องน้ำครูเลิศหรู มีน้ำดื่ม ใช้ อุดมสมบูรณ์ แต่ห้องน้ำนักเรีนนหดหู่ โสโครก น้ำไม่ไหล
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ถ้าคิดว่าการให้เด็กใช้ห้องน้ำครูได้โดยไม่แบ่งแยกต้องเท่าเทียมแล้วห้องน้ำจะสะอาดนั้นตนว่าแค่คิดก็ผิดแล้ว ตนคิดว่านี่เป็นเรื่องบริหารจัดการของผู้บริหารสถานศึกษาไม่ใช่เรื่องแบ่งแยกครูนักเรียน ไม่ใช่เรื่องต้องเท่าเทียมกัน อนาคตต่อไปครูอาจเรียกร้องว่าห้องน้ำผู้อำนวยการโรงเรียน ต้องไม่แบ่งแยกกับครู ครูทุกคนมีสิทธิใช้ห้องน้ำทุกห้องในโรงเรียนได้ เช่นเดียวกับนักเรียนไม่แบ่งแยกเท่าเทียมครู หรือ ถ้าจะมีคนเสนอว่า สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ข้าราชการทุกคนมีสิทธิใช้ห้องน้ำรองเลขาคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ผู้อำนวยการสำนัก หรือแม้กระทั่งห้องน้ำเลขาธิการ กพฐ. ได้ โดยห้ามแบ่งแยกเช่นกัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาข้าราชการทุกคน ก็ใช้ห้องน้ำผู้บริหารได้อย่างเท่าเทียม ห้ามแบ่งแยก แล้วสิ่งที่สังคมไทย วัฒนธรรมการให้เกียรติกันยกย่องนับถืออย่างมีเหตุผลมันจะเหลืออะไรให้เห็น “แทนที่จะกระตุ้นผู้บริหารสถานศึกษาแก้ปัญหาการบริหารจัดการห้องน้ำนักเรียนให้ได้มาตรฐาน และสนใจสร้างคุณภาพการศึกษาอย่างจริงจัง กลับไปสนใจเรื่องไม่เป็นเรื่องที่ไม่ใช่แก่นสำคัญของคุณภาพการศึกษา นี่สะท้อนชัดเจนว่าความเป็นมืออาชีพทางการบริหารนั้นมีอยู่มากน้อยเพียงใด อยากจะกระซิบจริงๆว่า แค่คิดก็ผิดแล้ว”