หน้าแรก > อาชญากรรม

ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ลุยปราบยาเสพติด สั่งการ “ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” บุกจับกุมพ่อค้ายาเสพติด และอายัดทรัพย์สิน รวมกว่า 3 ล้านบาท

วันที่ 22 เมษายน 2567 เวลา 02:26 น.


ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ลุยปราบยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง สั่งการ “ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” บุกจับกุมพ่อค้ายาเสพติด จำนวน 2 ราย ของกลางยาบ้ากว่า 1 หมื่นเม็ด และอายัดทรัพย์สิน รวมกว่า 3 ล้านบาท เน้นย้ำ เดินหน้าปราบปรามอย่างจริงจัง เพื่อกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย

(21 เม.ย.67) นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้ นายธาตรี สิริรุ่งวนิช ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ และ จ่าเอกอิศรา โพธิ์เงิน นายอำเภอน้ำเกลี้ยง บูรณาการหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง พร้อมสั่งการให้ ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามและทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดจังหวัดศรีสะเกษ “ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของหน่วยงานในพื้นที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส. และ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ได้ทำการสืบสวนขยายผลจับกุมตัว ผู้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่อำเภอศรีรัตนะและอำเภอน้ำเกลี้ยง จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 1 หมื่นเม็ด ทั้งนี้ ทางชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ได้ทำบันทึกการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอน้ำเกลี้ยงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการปฏิบัติการตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล และนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน (Quick Win) ของกระทรวงมหาดไทย โดยได้สั่งการให้ “ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน” ลงพื้นที่ตรวจสอบและจับกุมตัว นายชูชาติ หรืออี๊ด อายุ 36 ปี อยู่ที่หมู่ 1 ตำบลเสื่องข้าว อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งมีหมายจับในคดียาเสพติด ฐานความผิด "สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและสนับสนุนการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและร่วมกันจำหน่าย โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไลน์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน” ซึ่งสามารถจับกุมตัวนายชูชาติ ได้บริเวณซอยภายในหมู่บ้านชัยมงคล ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี  และได้ทำการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564 มาตรา 11/1(6) จำนวน 8 รายการ ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ 2 คัน, บ้านพร้อมที่ดิน 1หลัง, สวนทุเรียน 1 แปลง, สร้อยคอทองคำ 3 รายการ, รถจักรยานยนต์ 1 คัน รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดเบื้องต้น 3,442,000 บาท” นายอนุพงศ์ฯ กล่าว

นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่เข้าจับกุมตัวนายชูชาติฯ เป็นที่เรียบร้อย และนายชูชาติฯ ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่โดยการให้ข้อมูลขยายผลตามมาตรา 153  แห่งประมวลกฎหมายยาเสพติด ขยายผลจนสามารถเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย คือ นายสุธินันท์ ฯ อายุ 22 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 10,750 เม็ด บริเวณหน้าวัดบ้านตองปิด ตำบลตองปิด อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ชนิดร้ายแรง โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันมีลักษณะกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ในขณะที่ร่างกายมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” ทั้งนี้ ทางชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ได้ทำบันทึกการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดทั้ง 2 ราย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอน้ำเกลี้ยงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ และหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษอย่างเคร่งครัด ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ มีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ด้านการจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดศรีสะเกษได้บูรณาการทุกภาคส่วนดำเนินมาตรการเข้มงวดกวดขันเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพุ่งเป้า Re X-Ray ในทุกพื้นที่ เพื่อกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งนี้ ขอกำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับความเข้มข้น ในการเสาะหาเบาะแสการกระทำความผิดในทุกรูปแบบอย่างจริงจัง พร้อมขยายผลนำไปสู่การตัดวงจรยาเสพติด เพื่อให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย เกิดสวัสดิภาพ เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนหากพบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือ การกระทำความผิดทุกประเภท สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่นายอำเภอ ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ ศูนย์ดำรงธรรม สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุพงศ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย 

กองสารนิเทศ สป.มท.  
 

 

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม