หน้าแรก > สังคม

อดีตผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย ขอลาออก รับผิดชอบเหตุการณ์เรือหลวงล่ม

วันที่ 10 เมษายน 2567 เวลา 01:49


อดีตผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย ขอลาออก รับผิดชอบเหตุการณ์เรือหลวงล่ม

วันที่ 9 เมษายน 2567 จากกรณีที่ แถลงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยประสบอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 24 นาย สูญหาย 5 นาย โดยระบุว่า เป็นผลกระทบจากสภาพอากาศ คลื่นลมแปรปรวนรุนแรง มีคลื่นสูง 6 เมตร ทำให้การควบคุมเรือเป็นไปได้ลำบาก ขณะที่ “ผู้การเรือ” ตัดสินใจผิดพลาด ขาดความรอบคอบ แต่ไม่ได้เกิดจากความจงใจทำผิด ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ลงโทษกักเป็นเวลา 15 วันนั้น

ล่าสุด นาวาโทพิชิตชัย เถื่อนนาดี อดีตผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย กล่าวยอมรับว่า ยอมรับว่า ตามที่ผู้บังคับบัญชาชี้แจงเสร็จสิ้นแล้วนั้น ตนในนามของผู้บังคับการเรือ ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้ที่สูญเสีย

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือหลวงสุโขทัย ผมขอยืนยันว่าไม่มีผู้ใดตั้งใจทำให้เกิดขึ้น ผมและกำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างสุดความสามารถ เพื่อกู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น และพยายามแก้ไขสถานการณ์ตามขั้นตอน ในเหตุวิกฤตที่เกิดขึ้นรุนแรงเกินกว่าที่จะควบคุมได้ ในสถานการณ์วิกฤตและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนั้นในฐานะผู้บังคับการเรือจำเป็นต้องตัดสินใจดังนั้นการนำเรือกลับสัตหีบ จึงมาจากการใช้ดุลพินิจของผม ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น เรือยังอยู่ในสภาวะปกติไม่เอียง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเรือสามารถควบคุมได้ จึงเชื่อว่าสามารถนำเรือกลับได้ แต่หลังจากที่ตัดสินใจนำเรือกลับ สภาพอากาศแปรปรวนเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันเลวร้ายกว่าเดิม ซึ่งการตัดสินใจของผมอาจเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่รอบคอบ จึงส่งผลต่อการส่วนตัวที่เกิดขึ้น ดังนั้น ผมในฐานะผู้บังคับการเรือขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ต่างๆ ขอยอมรับโทษตามกองทัพเรือภาคที่ 1 และผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะเห็นควร

นอกจากนี้ หลังจากเรื่องทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมขอแสดงเจตจำนงค์ ลาออกจากกองทัพเรือ ที่เป็นถิ่นกำเนิดและบ้านเกิดการอบอุ่นของผม และเป็นการรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงเป็นการดำรงไว้ซึ่งเกียรติ และตำแหน่งผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัยที่ทหารเรือตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้ดำรงมา” นาวาโท พิชิตชัย กล่าว

นาวาโทพิชิตชัย ยังยืนยันว่า มีอิสระในการตัดสินใจจากสถานการณ์หน้างาน การหันหัวเรือกลับสัตหีบ ไม่ใช่การกดดันจากใครทั้งสิ้น เป็นการตัดสินใจของตนแต่เพียงผู้เดียว พร้อมทั้งยืนยันว่าผลการสอบสวนทั้งหมดไม่ได้มีการปกปิด และไม่ผิดไปจากข้อเท็จจริง

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม