หน้าแรก > อาชญากรรม

ล่าแก๊งทาสยานรก ไม่เกรงกลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ออกตระเวนขโมยองค์พระพรหม ทั่วอำเภอบางละมุง ตำรวจตามจับได้ 2 หนีอีก 2 จ.ชลบุรี

วันที่ 8 เมษายน 2567 เวลา 02:29 น.


ล่าแก๊งทาสยานรก ไม่เกรงกลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ออกตระเวนขโมยองค์พระพรหม ทั่วอำเภอบางละมุง ตำรวจตามจับได้ 2 หนีอีก 2 จ.ชลบุรี

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2567 พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก., พ.ต.ท.กรณ์พงษ์  สุขวิสิฏฐ์  รอง.ผกก.สส. ,พ.ต.ต.วุฒิพงษ์ กาสา สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ลงพื้นที่ เพิงพักชั่วคราว หลังวัดกระทิงลาย หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อเชิญตัว นางสาว ว. (นามสมมุต) อายุ 34 ปี และ นาย ธ. (นามสมมุต) อายุ 34 ปี มาทำการสอบสวน หลังตำรวจได้หลักฐานสำคัญ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ว่าทั้ง 2 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับก่อเหตุขโมย องค์พระพรหม 4 หน้า ที่ตั้งประดิษฐานตามศาลหน้าสถานที่สำคัญ ในพื้นที่ของอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องมาจาก ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม - วันที่ 3 เมษายน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งความจาก ผู้เสียหายหลายราย อาทิ คลังเก็บสินค้ายี่ห้อดัง, บริษัทรักษาความปลอดภัย, บริษัทออกแบบสิ่ง-รับเหมาก่อสร้าง, ร้านค้า, โรงงาน ทั้งหมดรวม 6 ราย เข้าแจ้งว่า รูปหล่อทองเหลืององค์พระพรหม ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ในศาลพระพรหม หน้าสำนักงาน ได้หายไปอย่างลึกลับ โดยภาพกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน มีทั้งผู้ชาย และผู้หญิง ใช้รถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วงข้าง และรถจักรยานยนต์ ใช้ในการก่อเหตุ      
 
ต่อมาชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ และตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย จนทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปยังเพิงพักชั่วคราว หลังวัดกระทิงลาย จึงนำกำลังไปควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องสงสัยทันที ก่อนจะสามารถควบคุมตัว นางสาว ว. อายุ 34 ปี ชาว จ.ลำปาง และ นาย ธ. อายุ 34 ปี เบื้องต้นตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่า ปัสสาวะเป็นสีม่วงทั้ง 2 คน

ตำรวจสอบสวน นาย ธ. อายุ 34 ปี ชาว จ.ลพบุรี ให้การรับสารภาพว่า นายเอ อายุ 35 ปี  สามีของ นางสาว ว. เป็นหัวโจกในเรื่องการหายไปขององค์พระพรหม ในสถานที่ต่างๆ โดยเป็นคนวางแผน และนำทีมไปก่อเหตุขโมยองค์พระพรหม ซึ่งคนที่ไปก่อเหตุ จะมี นายเอ ( ยังหลบหนีอยู่ ) , นายเทพ ( ยังหลบหนี ) และ นาย ธ. โดยจะใช้รถจักรยานยนต์ซาเล้งพ่วง 1 คัน และ รถจักรยานยนต์ 1 คัน ออกตระเวนตามที่สถานต่างๆ พอสบโอกาส ก็จะยกองค์พระพรหม ซึ่งตั้งอยู่ในศาลออกมาทั้งองค์ จากนั้นจะนำไปเผา-ลนไฟให้ร้อนจัด จนทองเหลืองร้อนเป็นสีแดง จากนั้นจะใช้ขวานทุบ จนองค์แตกเป็นชิ้นๆ แล้วรอให้เย็น เก็บใส่กระสอบ นำไปขายร้านของเก่าได้ กิโลกรัม ละ 200 บาท พอได้เงินมาจะนำมาแบ่งกัน ตกคนละพันกว่าบาท และซื้อยาไอซ์ เสพ

ต่อมา ตำรวจมีการคุมตัว นาย ธ. ไปยึดของกลาง โดยสามารถยึดขวานเหล็ก ที่ใช้ในการทุบ องค์พระพรหม จำนวน 1 ด้าม รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีดำ 1 คัน และ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ สีแดง-ดำ 1 คัน และตามไปยึดเศษองค์พระพรหม ซึ่งแผ่นทองเหลือง ถูกทุบแตกเป็นชิ้นๆ ในร้านรับซื้อของเก่าได้จำนวนหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอบถาม นาย ธ. ว่าไม่กลัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเล่นงานหรือ เจ้าตัวตอบว่า ส่วนใหญ่คนที่ยก และทุบองค์พระพรหม คือ นายเอ ซึ่ง นายเอ จะบอกว่า การนำองค์พระพรหมไปเผา หรือ ลนไฟจนองค์พระพรหมเป็นสีแดง ถือว่าเป็นการทำลายพลังขององค์พระพรหม แล้วจะทำให้ทุบแตกอย่างง่ายดาย แต่ก็มีเรื่องประหลาดอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่ไปก่อเหตุที่ บริษัทฯ ออกแบบและรับเหมาก่อเหตุ ที่ย่านซอยหนองกระบอก ใกล้กับข้างทางรถไฟ ตอนแรก จะไปก่อเหตุยกองค์พระพิฆเนศ สามคนพยายามช่วยกันยก - ยกเท่าไหร่ก็ยกไม่ขึ้น ใช้ขวานทุบก็ทุบไม่แตก จึงเปลี่ยนแผน ไปยกองค์พระพรหม  

พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้จับกุม นางสาว ว. และ นาย ธ. ในข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( ยาไอซ์ ) โดยผิดกฎหมาย ส่วนคดีขโมยพระองค์พระพรหม อยู่ในระหว่าง รวบรวมหลักฐาน ในการขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับ รวมถึงตัวการใหญ่ คือ นายเอ และลูกสมุน คือ นายเทพ ซึ่งยังหลบหนีอยู่ ส่วนในพื้นที่ สภ.บางละมุง มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ 6 ราย และยังไม่มาแจ้งความอีกหลายราย นอกจากนี้ ในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา และ สภ.หนองปรือ มีการแจ้งความในลักษณะเดียวกันอีกหลายองค์

เบื้องต้น มีองค์พระพรหม ของห้างแห่งหนึ่ง, แฟลตตำรวจ สภ.เมืองพัทยา , ตลาดสดย่านเทพประสิทธิ์ แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองพัทยา และอยู่ในระหว่างการประสาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เครดิต สยามชล นิวส์ 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม