วันที่ 1 เมษายน 2567 เวลา 20:50 น.
นายกฯ มอบนโยบาย บช.สอท. ยืนยัน ไม่มีใครใหญ่กว่าประชาชน ไม่ปกป้องคนผิด ขีดเส้น 30 วัน ต้องจับตัวการใหญ่อาชญากรรมไซเบอร์ให้ได้
วันนี้ (1 เมษายน 2567) เวลา 15.00 น. ณ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารพระชนมพรรษา 60 พรรษา ชั้น 6 เมืองทองธานี ถนนป๊อปปูล่า อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจและเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) มารอต้อนรับ นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกฯ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ตนเองคิดว่าถึงเวลาที่จะต้องมาที่นี่ คงไม่ต้องอารัมภบทอะไรมากมาย เชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วว่า บช.สอท. ถูกสังคมเพ่งเล็งเยอะมากต้องยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ท่าน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปได้อย่างถูกต้อง จะต้องไม่มีการก้าวก่ายและก้าวล่วง และให้ความเป็นธรรมกับท่านทั้ง 2 ด้วยเหมือนกัน ตนเชื่อว่าทุกท่านที่อยู่ในที่นี้ โดยเฉพาะรักษาการ ผบ.ตร. รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทยเป็นเรื่องที่ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องจัดการให้หมดสิ้นไป หากอ่านหนังสือพิมพ์ฟังข่าวสารมาบอกว่าท่านผู้บัญชาการคนนั้นเป็นเด็กคนนั้นคนนี้ ตนเองว่าไม่แฟร์สำหรับท่านทั้ง 2 คน แต่ไม่มีอะไรตอบสังคมได้ดีกว่าการปฏิบัติของพวกท่านทุกคน และหน่วยงานต่าง ๆ
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิสูจน์กันจริง ๆ ว่า ไม่ใช่ตนเองรักษาการ แต่คือประชาชน โดยงานที่ดูแลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหวยออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนัน และเฟคนิวส์ทั้งหลายเหล่านี้ เชื่อว่ากระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งเราทุกคนในที่นี้ มีความเกี่ยวข้อง ต้องมีความรับผิดชอบให้พี่น้องประชาชนอยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ได้รับความเป็นธรรมในการถูกคุ้มครอง ปัจจุบันเทคโนโลยีไปไกลมาก และการที่พี่น้องประชาชนถูกมอมเมา ถูกหลอกลวง ถูกต้มตุ๋น ซึ่งบางคนเก็บเงินมาทั้งชีวิตถูกคอลเซ็นเตอร์หลอกไปหมดเลย บางคนเก็บเงินไว้รักษาพ่อแม่ และเก็บเงินไว้ส่งลูกเรียนต่อหรือ ส่งลูกเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก นี่ไม่ใช่เป็นปัญหาของการที่เขาถูกหลอกลวง แต่เป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศด้วย
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่ที่จะมาพูดเล่น ๆ หรือมาสร้างภาพ ตนเองมาที่นี้ไม่ได้มาเพื่อสร้างภาพ แต่มาเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาอันใกล้ เราไม่มีเวลาแล้ว เรื่องการโยกย้ายต่าง ๆ ผ่านไปแล้ว เรื่องกระบวนการยุติธรรมเราได้ทำไปแล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวถามตลอดเวลาได้ทำอะไรต่อหรือเปล่า มีการปฏิรูป มีการพัฒนาอย่างไรต่อไป ตนเองคิดว่าเป็นเรื่องวาทกรรม วันนี้ทำให้เกิดเป็นรูปธรรมดีกว่า อย่าได้สนใจใครจะเป็นใครอะไรอย่างไร เชื่อว่าไม่มีใครใหญ่กว่าพี่น้องประชาชน ตนเองต้องการทำงานโดยเร็ว และไม่ใช่รายเล็ก ต้องการรายใหญ่ เชื่อว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้รู้อยู่แล้ว ในหน่วยงานของท่านใครที่ทำผิดกฎหมายอยู่บ้าง ใครที่พวกท่านสามารถไปตามจับสืบมาได้ ส่วนเรื่องคดีความของทั้ง 2 ท่านที่ถูกย้าย เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเดินไปตามหน้าที่ เราต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ท่าน ต่อไปเราต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เช่นนั้นจะตอบสังคมไม่ได้ เพราะเรายังตอบไม่ได้
นายกฯ ระบุวันนี้ที่มาที่นี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดี ไม่ได้มาว่า แต่มาให้กำลังใจ และบอกว่าไม่มีใครใหญ่กว่าพี่น้องประชาชน เราเองต้องเดินหน้า ไม่มีเวลาที่จะต้องมาหาเหตุผลว่าทำไมถึงทำไม่ได้ เชื่อว่าเราอยู่ในบริบทที่จะมาอธิบายว่าการทำไม่ได้มันไม่ใช่ ต้องทำให้ได้ด้วยเหตุผล จับรายใหญ่ให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะตอบสังคมลำบาก เพราะเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศ หน่วยงานของท่านสังคมเพ่งเล็ง
“ยืนยันไม่ปกป้อง จะไม่นิ่งเฉย หากไม่มีผลงานเกิดขึ้น ผมว่ามีปัญหาแน่นอน เราอยู่พวกเดียวกัน ฝ่ายเดียวกัน โดยไม่ต้องคำนึงถึงนักการเมืองหรืออะไรก็ตามจะมาครอบงำ วันนี้เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ผลงานของเราจะเป็นที่ประจักษ์ ขอเป็นนิมิตหมายอันดีและเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ของการที่เราเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชน ภายใน 30 วันนี้ชัดเจนว่าจะจับอะไรให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหวยออนไลน์ หรืออะไรที่เกิดขึ้น ซึ่งพี่น้องถูกหลอกลวงทุกวันนี้ยังมีอยู่ ขอเลยเรื่องนี้จะต้องทำงานกันอย่างชัดเจนและใกล้ชิด เพราะเทคโนโลยีไปไกลมาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ผมเจอรัฐมนตรีดีอีในวันที่ 2 เม.ย.นี้ จะกำชับอย่างเด็ดขาดว่าต้องทำงานร่วมกัน อย่ามีการโยนความผิดซึ่งกันและกัน อย่าบอกว่าคนนี้ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีนะตรงนี้ ผมเชื่อว่ามานั่งตรงนี้แล้วรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ พวกท่านเองก็ต้องให้ความสำคัญ ผมใช้เวลาประมาณ 5 นาทีที่พูดไป อยากให้ทุกท่านตระหนักดีว่าประชาชนเดือดร้อน เหตุผลที่เรามาทำงานตรงนี้ เพื่อให้ความดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ให้คนผิดลอยอยู่ได้ และยังทำทุกอย่างผิด ๆ อยู่ คิดว่าถึงเวลาแล้ว อยากได้เหตุผลว่าทำไมถึงจับไม่ได้ ต้องจับให้ได้ เพื่อพี่น้องประชาชนจะได้อยู่อย่างมีความสุข อย่าให้ถูกซ้ำเติมตรงนี้ โดยเฉพาะการถูกหลอกลวง เงินหมดไปก็เป็นส่วนหนึ่งของอาชญากร ตรงนี้ถือเป็นสารตั้งต้น ที่ต้องขจัดปัญหานี้ออกไปให้หมดจากสังคมไทย ผมยืนยันเรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียส ยืนยัน 30 วันต้องชัดเจน” นายกฯ ย้ำ