วันที่ 29 มีนาคม. 2567 เวลา 17:47 น.
ททท. ปลุกกระแสท่องเที่ยวในประเทศ ผลักดันแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” กระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ไตรมาส 2 ดันเป้ารายได้ท่องเที่ยวรวม ปี 67 ทะยาน 3 ล้านล้านบาท
ททท. ปลุกกระแสท่องเที่ยวในประเทศ ส่งแคมเปญ "สุขทันที ที่เที่ยวไทย" สร้างความสุขแบบฉุกเฉินผ่านการท่องเที่ยว ผนึกการบินไทย Klook และผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้มาตรฐาน STGs Stars มอบสิทธิพิเศษสร้างความสุขจัดเต็มชุดใหญ่ผ่านกิจกรรมออนไลน์ พร้อมสุขกันต่อ กับ “ต่อ ธนภพ” เติมแรงบันดาลใจกับกิจกรรมสนุกๆ ในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทยฯ ชวนกันออกไปเที่ยวไทยในทันที บูมเศรษฐกิจเที่ยวไทยในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ หนุนรายได้ท่องเที่ยวปี 67 แตะเป้า 3 ล้านล้านบาท
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตามที่ รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ โดยผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน และกระจายรายได้ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก โดย ททท. ในฐานะหน่วยงานส่งเสริมด้านการตลาด และการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภายในประเทศ จึงเร่งดำเนินการเพื่อสร้างบรรยากาศและสร้างกระแส
การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศให้กลับมาฟื้นตัว และ “เร่ง” ฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทยสู่บทต่อไปที่ดีขึ้น (Moving forward to Better) อย่างมีคุณค่า สมดุล และยั่งยืน ตามแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ปี 2567 สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในประเทศที่มีความหลากหลาย ทั้งในเมืองท่องเที่ยวหลักและเมืองรอง สามารถตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ถึงการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) โดยส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เกิดการกระจายรายได้ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ล่าสุด ททท. ได้ขับเคลื่อนแคมเปญ "สุขทันที ที่เที่ยวไทย" เพื่อปลุกกระแสให้เกิดการออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ด้วยการนำเสนอกิจกรรมที่จะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวไทยอย่างเร่งด่วนและทันที เนื่องจากการท่องเที่ยว เป็นวิธีการสร้างความสุขแบบฉุกเฉินที่ดีที่สุด อีกทั้งความสุขเกิดขึ้นได้ตั้งแต่วางแผนการท่องเที่ยว ระหว่างการเดินทาง และยังสุขต่อเนื่องที่ได้แบ่งปันความประทับใจให้ผู้อื่น
“แคมเปญสุขทันที ที่เที่ยวไทย มาจาก Insight ของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ที่มีทั้งความเครียด และแรงกดดันต่าง ๆ ทั้งเรื่องงาน และชีวิต ซึ่งการท่องเที่ยวเมืองไทยสามารถช่วยคุณได้แบบทันที โดยแคมเปญนี้ต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ตามแนวคิดที่ว่า การท่องเที่ยวไทยเป็นวิธีการสร้างความสุขแบบฉุกเฉินที่ดีที่สุด” นางสาวฐาปนีย์ กล่าว
แคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” จัดกิจกรรมสุดพิเศษภายในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 42 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 มีนาคม - 1 เมษายน 2567 เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการรับรู้แคมเปญฯ ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ตลอดจนกระตุ้นให้เกิดการออกเดินทางจริง รวมทั้งเผยแพร่และนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด "สุขทันที ที่เที่ยวไทย" เชิญชวนคนไทยออกมาค้นหาความสุขแบบง่าย ๆ ได้ทุกวัน ผ่านการท่องเที่ยวไทย ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่แตกต่างอย่างหลากหลายในแต่ละภูมิภาค ครอบคลุมทั้งเมืองหลักและเมืองรอง สามารถสร้างความสุขได้ทันที ตลอด 365 วัน
โดยแคมเปญนี้จะมุ่งสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวไทย 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มผู้หญิง, กลุ่ม Gen Y,กลุ่ม Gen Z, กลุ่ม Multigeneration (Family) และกลุ่ม Active Senior พร้อมกิจกรรมที่จะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวไทยอย่างเร่งด่วนและทันที ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมสนุกทางออนไลน์ โดย ททท. ได้ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้ง บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ Klook แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยวชั้นนำ รวมทั้งผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้มาตรฐาน STGs Stars ร่วมมอบสิทธิพิเศษ สร้างความสุขจัดเต็มชุดใหญ่ ให้คนไทยได้ออกไปเที่ยวเมืองไทย กับแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ร่วมสนุกกันได้ทุกวันระหว่างวันที่ 29 มีนาคม 2567 - 7 เมษายน 2567 ผ่านช่องทาง Facebook: Amazingไทยแลนด์
ภายในงานแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” วันที่ 29 มีนาคม 2567 ในเทศกาลเที่ยวเมืองไทย พบกับกิจกรรมพิเศษจาก “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” ที่จะชวนแฟนคลับพร้อมผู้ชมที่อยู่ในบริเวณงานมาร่วมพูดคุยและลุ้นรับรางวัลพิเศษจากงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย สร้างแรงบันดาลใจในการออกเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย รับความสุขทันทีที่เที่ยวไทย นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อสร้างการรับรู้แคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” และกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในงานเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ที่จะจัดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณถนนราชดำเนินกลางและท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 11-15 เมษายน 2567
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวเสริมว่า กิจกรรมท่องเที่ยวที่สร้าง “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ในช่วงเดือนเมษายนนี้ คือ “เทศกาลสงกรานต์” ซึ่งปีนี้มีการจัดกิจกรรมขึ้นในกรุงเทพมหานคร และส่วนภูมิภาค 16 จังหวัด ประกอบด้วย 5 จังหวัดที่มีอัตลักษณ์การจัดเทศกาลสงกรานต์ที่โดดเด่น ซึ่งเป็นกลุ่มจังหวัดที่ประเทศไทยนำเสนอเพื่อขอขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี สมุทรปราการ นครศรีธรรมราช กลุ่ม 5 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงราย หนองคาย พิษณุโลก สงขลา บุรีรัมย์ และกลุ่มจังหวัดอื่นๆ ที่มีศักยภาพและมีการจัดงานประเพณีสงกรานต์ที่มีเอกลักษณ์ 6 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา นครพนม ลำปาง เลย สุโขทัย และภูเก็ต สำหรับ “งานเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” ถือเป็นจุดไฮไลต์ของพื้นที่กรุงเทพฯ นำเสนอภาพลักษณ์ความสวยงามของประเพณีไทยด้วยขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์กว่า 20 ขบวน รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรม
จากนักแสดงและผู้ร่วมขบวนแห่กว่าพันคน พร้อมกิจกรรมนำเสนอศิลปวัฒนธรรมประเพณี อาทิ โซนสงกรานต์อัตลักษณ์ 5 ภาค โซน Soft Power นำเสนอเอกลักษณ์ในแต่ละสาขา ได้แก่ กีฬา อาหาร ท่องเที่ยว หนังสือ และการออกแบบ โซนสุดยอดของดี สินค้า OTOP จากทั่วประเทศ พร้อมสัมผัสประสบการณ์ 365 วัน มหัศจรรย์เที่ยวเมืองไทย เสนอขายแพคเกจส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นต้น โดยการจัดงาน เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ในครั้งนี้ จะเป็นการประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีอันทรงคุณค่าของประเทศไทย หลังจากการที่ประเพณีสงกรานต์ของไทยได้รับการประกาศจากองค์การ UNESCO ให้ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566
“ททท. เชื่อมั่นว่า แคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” จะช่วยกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับมาฟื้นตัว สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ กระจายรายได้ไปยังผู้ประกอบการและชุมชนทั่วประเทศ พร้อมทั้งจะช่วยสร้างความสุข และความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ เพื่อนำไปสู่การออกเดินทางท่องเที่ยวในครั้งต่อ ๆ ไป เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายปี 2567 ในการผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ 3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น รายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.92 ล้านล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวไทย 1.08 ล้านล้านบาท” นางสาวฐาปนีย์ กล่าว
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน