หน้าแรก > อาชญากรรม

ตำรวจไซเบอร์ ร่วมมือกับทางงการเมียนมา ทลายบ่อนพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดของกลางได้เพียบ

วันที่ 27 มีนาคม. 2567 เวลา 19:06 น.


ตำรวจไซเบอร์ประสานความร่วมมือเมียนมาร์ ขยายผลข้ามแดนเก็บรวบรวมข้อมูลและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน เครือข่ายการพนันออนไลน์ใน จ.ท่าขี้เหล็ก

วันที่ 27 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 น. ที่ กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,
พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.ฯ ปฏิบัติราชการ บช.สอท. ร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุด โดย นายสุริยน ประภาสะวัต ตำแหน่ง อัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 1 เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการ (AIS) โดย นายศรัณย์ ปรีชา ผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว “JOINT CYBER OPERATION” กรณี ตำรวจไซเบอร์ประสานความร่วมมือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาขยายผลข้ามแดนเก็บรวบรวมข้อมูลและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน เครือข่ายการพนันออนไลน์  ใช้พื้นที่ใกล้ชายแดนเป็นฐานที่มั่น ใน จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ทหารร่วมกับตำรวจสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ได้เข้าปราบปรามบ่อนการพนันออนไลน์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.ท่าขี้เหล็ก พื้นที่ติดต่อกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนไทย จำนวน 154 ราย (ชาย 78 ราย หญิง 76 ราย)

โดย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ดำเนินการตรวจสอบ สืบสวนขยายผล รวบรวมข้อมูล และตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว โดยประสานงานผ่านสถานทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ต่อมาได้มีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าพนักงานจากประเทศไทยเข้าพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล และตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และ ผบ.ตร. ได้อนุมัติให้เดินทางไปราชการในประเทศและต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 21 - 23 มีนาคม 2567 ในพื้นที่ จ.เชียงราย ต่อเนื่องพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อเก็บรวบรวมวัตถุพยานทางดิจิทัล ประกอบการสืบสวนขยายผล และเพื่อทราบแผนประทุษกรรมของขบวนการนี้

การตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เป็นอาคาร จำนวน 3 หลัง ซึ่งอาคารหลังแรกมี 3 ชั้น อาคารหลังที่สอง มี 2 ชั้น อาคารหลังที่สาม มี 3 ชั้น โดยทั้ง 3 อาคาร ดัดแปลงเป็นห้องสำนักงานที่ใช้ในการชักชวนเล่นการพนันออนไลน์ และเป็นห้องที่ใช้ในการพักผ่อน  รวมจำนวน 50 ห้อง พบเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่า 400 เครื่อง พร้อมระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโปรแกรมเกม และการพนันประเภทต่างๆ โดยพบว่ามีห้องที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ จำนวน 1 ห้อง

การซักถามปากคำบุคคลที่ถูกจับกุม 154 ราย ให้ถ้อยคำว่า ได้ทำงานเกี่ยวกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยทำหน้าที่เป็น แอดมินชักชวนให้คนไทยที่อยู่ในเขตประเทศไทยเข้าเล่นการพนันออนไลน์ ให้คำแนะนำการสมัครสมาชิก การแก้ปัญหาเกี่ยวกับการเล่นพนันออนไลน์ การนำชื่อเว็บไซต์พนันออนไลน์ไปแสดงตามแอปพลิเคชันต่างๆ การนำเสนอโฆษณา การสร้างเพจเฟซบุ๊กเพื่อใช้โฆษณาเว็บไซต์พนันออนไลน์ เป็นต้น

การตรวจสอบพยานหลักฐานทางดิจิทัล

1) โทรศัพท์ จำนวน 316 เครื่อง ได้ทำการตรวจทำบัญชีขึ้นรหัส และทำการสำเนาข้อมูลออกจากเครื่อง
2) หมายเลขโทรศัพท์ จำนวน 83 เลขหมาย แบ่งเป็นหมายเลขจากบริษัทผู้ให้บริการในประเทศไทย จำนวน 45 เลขหมาย  จากบริษัทผู้ให้บริการในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จำนวน 38 หมายเลข
3) บัญชีธนาคารปรากฏเลขบัญชีตรงกับสติกเกอร์ที่แสดงเลขบัญชีติดไว้เป็นสัญลักษณ์ที่ด้านหลังโทรศัพท์มือถือของกลาง จำนวน 15 บัญชี แบ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย จำนวน 7 บัญชี ธนาคารพาณิชย์ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จำนวน 8 บัญชี
4) เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 31 เครื่อง (สำรองข้อมูล 12 เครื่อง) พบประวัติของเว็บไซต์ 15 เว็บไซต์, โปรแกรมสำหรับทำการสมัคร Facebook อัตโนมัติ, หลักฐานการสรุปค่าใช้จ่ายของเว็บไซต์พนันออนไลน์, ใบเสร็จการโอนเงิน และพบ URL เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการพนัน จำนวน 23 เว็บไซต์

แนวทางการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการพนันก่อน หลังจากได้รับโทษตามกฎหมายแล้ว จะส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย  ซึ่งคณะทำงานพบพยานหลักฐานมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลที่ถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาจับกุมพร้อมของกลางนั้น ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วย การพนันความผิดเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา หรือการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่มีกฎหมายกำหนดเป็นความผิด และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงิน ซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทำลงนอกราชอาณาจักร  โดยจะทำการสืบสวนสอบสวนขายผลไปถึงตัวการและผู้รับผลประโยชน์ ตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำความผิด เพื่อพิสูจน์ทราบถึงเครือข่ายการทำงานของกลุ่มขบวนการภายในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สืบสวนเกี่ยวกับที่อยู่ของข้อมูลในอินเทอร์เน็ต (URL) ที่ใช้งานการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ บุคคลผู้ชักชวนให้เล่นการพนันทั้งหมด 23 URL เพื่อหาตัวการและผู้รับผลประโยชน์เกี่ยวกับ เว็บไซต์การพนันออนไลน์ดังกล่าว

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม