หน้าแรก > อาชญากรรม

ตำรวจพลับพลาไชย 2 รวบหนุ่มราชบุรี จ้วงแทงอริดับคาแยกลำพูนไชย ปมคับแค้นใจ ถูกข่มเหงรังแก ตั้งแต่เคยอยู่ในเรือนจำ

วันที่ 27 มีนาคม. 2567 เวลา 01:09


ตำรวจพลับพลาไชย 2 รวบหนุ่มราชบุรี จ้วงแทงอริดับคาแยกลำพูนไชย ปมคับแค้นใจ ถูกข่มเหงรังแก ตั้งแต่เคยอยู่ในเรือนจำ

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พลับพลาไชย 2 ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดี ว่าพบศพ ชายชาวไทย อายุประมาณ 40-50 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนฟุตบาท บริเวณถนนเจริญกรุง ตรงแยกลำพูนไชยตัดกับถนนเจริญกรุง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รายงานไปยังผู้บังคับบัญชา โดยมี พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6, พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6, พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6, พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วิสิทธิ์ สายบัวทอง รอง ผกก.สส.บก.น.6, พ.ต.ท.สุทิน ยุ่นสมาน รอง ผกก.สส.สน.พลับพลาไชย 2, พ.ต.ท.ธนกฤต วุฒิมโนจินดา สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 , ร.ต.ท.เฉลิมพล จันทร์สุข รอง สว.สส.ฯ, ร.ต.ท.ประวิทย์ บุญฤทธิ์ รอง สว.(สส.)ฯ, ด.ต.ศุภฤกษ์ ตองอ่อน ผบ.หมู่ (สส.)ฯ, ส.ต.อ.มนชิต กีติพรหม ผบ.หมู่ (สส.)ฯ, ส.ต.ท.ธนศักดิ์ จันตา ผบ.หมู่ (สส.)ฯ, ส.ต.ท.ปรมินทร์ กาสาว์ ผบ.หมู่ (ป.)ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ

โดยที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต มีสภาพไม่ใส่เสื้อ และมีรอยสักตามลำตัว โดยเอาเสื้อพันไว้บริเวณที่ลำตัว จึงได้เปิดออกดู ปรากฏพบว่ามีบาดแผลคล้ายถูกของมีคมแทงเข้าบริเวณหน้าอก บริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย และจากการตรวจค้นดูกระเป๋าของผู้เสียชีวิตก็พบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์, ไฟฉาย, พาวเวอร์แบ็งค์ และพบบัตรประจำตัวประชาชน ระบุชื่อนายสมปอง อายุ 44 ปี เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร จึงได้แจ้ง พฐ. และ หมอนิติเวช ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ

โดยเบื้องต้นตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่อย่างใด จากนั้นจึงได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.03 น. พบผู้เสียชีวิตเดินเท้ามาจากแยกหมอมีตามถนนเจริญกรุง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้ถอดเสื้อพันรอบตัวแล้วล้มลงนอนเสียชีวิต

ต่อมา ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณแยกหมอมี พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 04.01 น.พบว่าผู้เสียชีวิตได้มีเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่น จำนวน 1 คน และได้ถูกชายวัยรุ่น คนดังกล่าว ผู้ก่อเหตุซึ่งแต่งกายใส่หมวกแก๊ป สีดำ แถบขาว ใส่เสื้อยืด แขนยาว คอกลม สีขาว แขนเสื้อดำสวมใส่กางเกงยีนส์ ขายาว สีดำ ใส่รองท้าผ้าใบ ยี่ห้อไนกี้ สี ขาว ดำ เป็นผู้ใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียชีวิตที่บริเวณแยกหมอมี ถนนมิตรพันธ์ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ซึ่งห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 200 เมตร หลังก่อเหตุชายวัยรุ่นดังกล่าวได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110ไอ สีเทา โดยมีเพื่อนผู้ก่อเหตุ ชายวัยรุ่น รูปร่างผอม สูงประมาณ 165-175 ซ.ม.ทรงผม รองทรง ใส่เสื้อเชิ๊ต คอปก แขนสั้น สีฟ้า สวมใส่กางเกงยีนส์ ขายาว สีดำ ใส่รองเท้าแตะ แบบสวม สีครีม เป็นผู้ขับขี่ หลบหนีไปตามถนนมิตรพันธ์มุ่งหน้าวงเวียน 22

จากการสืบสวน ติดตาม และได้รับแจ้งจากสายลับทราบว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ชื่อนายพัฒนะ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองราชบุรี จว.ราชบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียชีวิต และ นายเล็ก (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ พานายพัฒนะ หลบหนี เมื่อทราบดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประชุมวางแผนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับ ทราบว่านายพัฒนะ (สงวนนามสกุล) ผู้ใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียชีวิตได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าไม่ทราบเลขที่ ซอยตรอกครุฑ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  จึงได้เดินทางไปจับกุมเมื่อเดินทางไปถึงพบตัวนายพัฒนะ นอนอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทำการจับกุมตัว สอบถามนายพัฒนะ รับว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดพับสแตนเลสแทงนายนายสมปอง จริงที่บริเวณหน้าอกข้างซ้ายใต้ราวนม จำนวน 1 ครั้ง หลังก่อเหตุได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ของนายเล็ก พากันหลบหนีที่บ้านเช่าหลังดังกล่าว จากนั้นได้แยกย้ายกับนายเล็ก โดยไม่ทราบว่านายเล็ก พักอยู่ที่ไหน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางรายการที่ 1 ถึงของกลางรายการที่ 5 ไว้เป็นของกลาง

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการจับกุม โดยจากกรณีมีพยานหลักฐานตามสมควรว่าผู้ถูกจับกุมน่าจะได้กระทำความผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับผู้ถูกจับกุมดังกล่าวได้ประกอบกับผู้ถูกจับให้การรับสารภาพ

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้รวบรวมของกลางทั้งหมดไว้เป็นของกลางในคดี พร้อมแจ้งพฤติการณ์ สิทธิตามกฎหมายและข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับกุมทราบว่ากระทำผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งนายพัฒนะ ผู้ถูกจับกุมทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว

จากนั้นจึงได้ควบคุมตัว นายพัฒนะ ผู้ถูกจับกุม เพื่อทำบันทึกจับกุมและทำประวัติ สอบถาม นายพัฒนะ ผู้ถูกจับกุมรับว่าได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดพับสแตนเลสแทงนายสมปอง (ผู้เสียชีวิต) จริง จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายพัฒนะ ผู้ถูกจับกุม พร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในชั้นจับกุม นายพัฒนะ ผู้ถูกจับกุม ได้รับทราบข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายแล้วขอให้การโดยสมัครใจว่า รายละเอียดและพฤติการณ์ข้างต้นเป็นความจริง ทุกประการ

พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 เผยว่า จากการสอบถามผู้ก่อเหตุ ถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้ โดยผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ย้อนไปเมื่อราวปี 2563 ตนเองเคยต้องคดีเข้าไปอยู่ในเรือนจำ แล้วได้ไปเจอกับผู้เสียชีวิตในเรือนจำ หลังจากนั้นตนเองได้ถูกผู้เสียชีวิตซึ่งมีความอาวุโสกว่า ข่มเหงน้ำใจอยู่ในเรือนจำเรื่อยมา จึงทำให้เกิดความแค้นสะสมเรื่อยมา ครั้นพอพ้นโทษออกมาก็บังเอิญได้มาเจอกับผู้เสียชีวิตในวันเวลาดังกล่าว จึงเกิดความแค้นปะทุขึ้นมา และได้เข้าไปชกต่อยพร้อมกับใช้อาวุธมีดพับสแตนเลสปลายแหลมที่ตนพกไว้ เข้าไปจ้วงแทงที่บริเวณช่วงอกใต้ราวนมด้านซ้ายของผู้เสียชีวิต หลังจากนั้นจึงได้ขึ้นซ้อนรถจักรยานยนต์ของนายเล็ก พากันหลบหนีไปยังบ้านเช่าหลังดังกล่าวที่ถูกจับกุม

ขอขอบคุณ พ.ต.อ.วิทวัส เข่งคุ้ม ผกก.สน.พลับพลาไชย 2, คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์ รองประธานที่ปรึกษา กต.ตร.สน.พลับพลาไชย 2 สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม