กก.สอบข้อเท็จจริงบ่อนบางใหญ่ประชุมนัดแรก ย้ำหากพบตำรวจมีเอี่ยว หรือ เกียร์ว่าง ฟันวินัย-อาญาไม่มีละเว้น คาดแล้วเสร็จใน 30 วัน

วันนี้ (26 มี.ค.67) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 5) (สส 3) เปิดเผยว่า วันนี้ตน เองในฐานะประธานกรรมการ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่ง ตร.ที่ 144/2567 กรณีชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองบุกเข้าจับกุมบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา

ภายหลังประชุม พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า วันนี้เป็นการวางกรอบพร้อมมทั้ง แนวทางการสืบสวน ว่า มีข้าราชตำรวจระดับไหนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์หรือไม่ มีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ตามคำสั่ง ตร. 1212 / 2537 ซึ่งระบุว่า ข้าราชการตำรวจมีอำนาจหน้าที่ รักษาความสงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักร เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน รักษากฎหมายเกี่ยวกับการกระทำผิดในทางอาญา และดูแลรักษาผลประโยชน์ของสาธารณะ

"หากพบว่ามีข้าราชการตำรวจบางคน ประพฤติหรือปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยไม่ยึดถือกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียม เป็นเหตุให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และข้าราชการตำรวจโดยส่วนรวม ประชาชนขาดความเลื่อมใสศรัทธา ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของรัฐบาล รวมถึงถ้าพบว่ามีบุคคลใดประพฤติตนเข้าข่ายกระทำผิด ตามมาตรา 157 หรือไม่ จะต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง"ผู้ช่วย ผบ.ตร. ระบุ

พล.ต.ท.อัคราเดช ในเบื้องต้นการประชุมวันนี้เป็นกระประชุมครั้งแรกของคณะกรรมการชุดนี้ โดยตนได้สั่งการให้ลงไปสืบสวนหาพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล และพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ในพื้นที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อให้มีความถูกต้องตามข้อเท็จริงที่ปรากฏ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน ก็สามารถสรุปผลการตรวจสอบเสนอ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.และรรท.ผบ.ตร. เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป