จากกรณี เมื่อวันที่ 24 ก.พ.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิแบบไม่แจ้งล่วงหน้า และพบว่ายังไม่พอใจการทำงานในบางจุด พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบช่วงเวลาที่ผู้โดยสารหนาแน่นและหาแนวทางลดเวลาให้บริการตามจุดต่างๆ 

วันนี้ (25 มี.ค.67) เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. เดินทางมาสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตม. ว่าได้ดำเนินการให้เป็นไปตามสั่งการของนายกรัฐมนตรี หรือไม่ พร้อมดูสภาพปัญหาโดยเฉพาะในช่วงที่ผู้โดยสารหนาแน่น เพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน

จากการตรวจสอบพบว่า ตม.สุวรรภูมิ ได้มีการปรับลดขั้นตอนการตรวจหนังสือเดินทางจากเดิม ขาเข้า ใช้เวลา 45 วินาที ปัจจุบันเหลือเพียง 30 วินาที เนื่องจากมีการปรับลดบางขั้นตอน เช่น ยกเลิกการ scan boarding pass ยกเลิกการเขียนเที่ยวบินและลงนามในตราประทับ เป็นต้น และขาออก มีการนำเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ หรือเครื่อง Automatic channel มาช่วยในการตรวจหนังสือเดินทาง จากเดิมใช้เวลา 40 วินาที ปัจจุบันใช้เวลาเพียง 20 วินาที 

ในกรณีที่ผู้โดยสารหนาแน่น ซึ่งอาจเกิดจากกรณีไฟลท์บินเข้าพร้อมๆ กัน เช่น เข้าพร้อมกัน 20-25 ลำ หากมีผู้โดยสารลำละ 200 คน จะมีผู้โดยสารรวมประมาณ 4,000-5,000 คน ในขณะที่พื้นที่รองรับผู้โดยสารรองรับได้เพียง 2,000 คน จะใช้การเสริมเจ้าหน้าที่ๆ พักเวรมาเสริมให้เต็มช่องตรวจ เพื่อช่วยระบายผู้โดยสารให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันเรามีการบรรจุเจ้าหน้าที่ ตม.เพิ่มขึ้น 200 อัตรา และจะรับเพิ่มอีก 330 อัตรา ซึ่งเชื่อว่าเพียงพอต่อการให้บริกา

นอกจากนี้ สตม.ยังได้การปรับปรุงระบบ ตม. หรือ biometrics เครื่องลูกข่าย แม่ข่ายและอัพเดทฮาร์ดแวร์ ให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ระบบล่มอย่างที่ผ่านมาอย่างแน่นอน 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใย โดยเฉพาะในไตรมาส 4 จะมีชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก ให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมในการรองรับ วันนี้จึงได้มาตรวจดูสภาพปัญหา พร้อมกำชับการปฏิบัติ มั่นใจ สตม.มีความพร้อมในการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ