วันที่ 21 มีนาคม. 2567 เวลา 13:56 น.
วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อม นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรีเปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกนักค้า รักษาผู้เสพ สร้างชุมชนปลอดภัยยาเสพติด”โดยปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติด จำนวน 31 แห่ง เพื่อจับกุมผู้ค้ารายย่อย จำนวน 34 เป้าหมาย ในพื้นที่ 4 เขตคือ มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง และคลองสามวา
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เน้นย้ำการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด พร้อมประกาศให้ยาเสพติดเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี และกำหนดให้มีปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติด Quick win
โดยมุ่งลดความรุนแรงของผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดในชุมชน ด้วยมาตรการจับกุมผู้ค้ารายย่อยในชุมชน และสืบสวนขยายผลไปถึงระดับสั่งการ สำหรับกรุงเทพมหานคร ดำเนินการเป็นครั้งที่ 3 ในพื้นที่ บก.น.3 ซึ่งมีเขตติดต่อกับจังหวัดปริมณฑลที่มีความเคลื่อนไหวของยาเสพติดปริมาณมาก ส่งผลให้ช่วงที่ผ่านมา บก.น.3 มีสถิติจับกุมยาเสพติดสูงเป็นอันดับต้นๆ
โดยผลปฏิบัติการในวันนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 20 คดี ผู้ต้องหา 29 คน (ชาย 23 คน หญิง 6 คน) เป็นข้อหาจำหน่าย 2 ราย, ครอบครอง 6 ราย, ครอบครองเพื่อเสพ 12 ราย, เสพ 54 ราย ของกลาง ยาบ้า 3,021 เม็ด ไอซ์ 48.34 กรัม และ-เครื่องกระสุนปืน (.38) จำนวน 6 นัด ทั้งนี้ผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีพฤติการณ์ทั้งเสพและจำหน่ายยาบ้า โดยใช้ห้องเช่าหรือบ้านเช่าตามชุมชนที่อาศัยอยู่เป็นที่จำหน่ายยาเสพติด
นอกจากนี้ สน.มีนบุรี ยังเข้าตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งถนนประชาร่วมใจ แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา พบของกลาง ช่อดอกกัญชา จำนวน 66 ถุง(น้ำหนักถุงละ 1.2 กิโลกรัม) รวมน้ำหนัก 80 กิโลกรัม และกัญชาไฟฟ้า บรรจุอยู่ในกล่อง 310 ชิ้น จึงแจ้งข้อหา ส่งออกและพยายามส่งออกสมุนไพรควบคุม(กัญชา)โดยไม่ได้รับอนุญาต (พ.ร.บ. คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 (มาตรา 46) ซึ่งกำหนดบทลงโทษ จำคุก 1 ปี และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 (มาตรา 42) บทลงโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของมูลค่า หรือทั้งจำทั้งปรับ) จำนวน 1 ราย
ต่อมา เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ลงพื้นที่เป็นประธานเปิดกิจกรรม “รักษาผู้เสพ สร้างความปลอดภัยให้ชุมชน” ณ ชุมชนมีนบุรีอุปถัมภ์ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เพื่อให้กำลังใจ ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนและครอบครัวให้มีความอบอุ่น มีความสามัคคี และมีส่วนร่วมกันในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดในชุมชน
ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ มีบูธมาให้บริการประชาชนมากมายทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมจากหน่วยงานภาคี ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพมหานคร มาให้บริการตรวจสอบสิทธิหลักประกันสุขภาพ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้บริการทำบัตรผู้พิการ ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 22 และ 43 มาให้บริการด้านบำบัดยาเสพติด สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี มานำเสนอชุมชนยั่งยืน และสำนักงาน ป.ป.ส. มอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่ 13 ชุมชน และมอบทุนประกอบอาชีพให้แก่ผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติด จำนวน 1 ราย นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน ก็มาให้คำปรึกษาด้านการเงินและการออม
หลังจากนั้น เลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าเยี่ยมคารวะแสดงความยินดีต่อท่านอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี เนื่องในโอกาส ที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2567และหารือความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชุมชนมุสลิมทั่วประเทศ ซึ่งต่อยอดความสำเร็จจากการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชุมชนวังโสม จนสามารถยกระดับเป็นชุมชนต้นแบบต้านภัยยาเสพติดได้ และมองเห็นว่าชุมชนที่มีศาสนาเป็นศูนย์กลางนั้น สามารถสร้างพลังบวกและส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดี
ผ่านการขับเคลื่อนงานภายใต้แกนนำกองทุนแม่ของแผ่นดิน อาทิ การสร้างการรับรู้เรื่องโทษพิษภัยของยาเสพติดในมัสยิด สถานศึกษาและหมู่บ้านชุมชน ผ่านวิทยุ เสียงตามสาย และสถานีโทรทัศน์มุสลิม รวมทั้งให้มีการกล่าวคุตบะห์ ทุกวันศุกร์ การดูแลบุตรหลานของแต่ละครอบครัว การเฝ้าระวัง ดูแล สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้เสพที่ผ่านการบำบัดยาเสพติด เป็นต้น จนประสบความสำเร็จสามารถลดความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหายาเสพติดได้