วันที่ 13 มีนาคม. 2567 เวลา 03:13 น.
รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พฐ.เข้าตรวจหาสาเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตซิป
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่โรงงานทำซิปแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นผู้ผลิตซิปทุกประเภท รายใหญ่ของจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ทำให้ต้องประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพร้อมรถน้ำจากทุกพื้นที่ใกล้เคียงเข้าช่วยเกือบ 50 คัน เนื่องจากด้านในตัวอาคารมีวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทั้งผ้า พลาสติก เส้นด้าย และอื่นๆ อีกจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้เวลานานราวๆ 3 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 12 มีนาคม 2567 พ.ต.อ.อดุลย์ชัย เผ่าพันธุ์ศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่วิทยาการ จากกองพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาพิกัดที่เป็นต้นเพลิง และนำไปสู่การพิสูจน์ทราบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจน แต่เนื่องด้วยตัวอาคารที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1 ไร่ มีสภาพทรุดทั้งหลัง และ อาจจะถล่มลงมาได้ตลอดเวลานั้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่าย จึงต้องให้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านอาคาร โดยวิศวกรจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรสาคร หรือ ของทาง อบต.ท่าไม้ เข้ามาตรวจวิเคราะห์ความปลอดภัยด้านโครงสร้างฯ ก่อน จากนั้นทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จะเข้าไปตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่ทั้งนี้ก็ได้มีการนำสายกั้นมาทำเขตประกาศให้เป็นพื้นที่อันตรายห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในอย่างเด็ดขาด ส่วนสภาพโดยรวมหลังเพลิงดับลงแล้ว ก็ปรากฏว่า นอกจากตัวอาคารแล้ว วัสดุสิ่งของ และเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต ได้รับความเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ทาง อบต.ท่าไม้ ยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฯ เฝ้าพื้นที่ต่อเนื่อง เพราะเกรงว่าจะเกิดการปะทุขึ้นมาได้อีก หลังจากที่เกิดการปะทุซ้ำสองขึ้นอีกครั้ง เมื่อเวลาราวๆ ตี 5 ที่ผ่านมา
ส่วนบรรยากาศด้านหน้าของโรงงานก็มีพนักงานมานั่งอยู่ด้วยความหดหู่ใจ ภายหลังจากที่ทราบว่าเกิดไฟไหม้โรงงาน เพราะทำให้คนงานที่มีอยู่กว่า 40 คน ต้องหยุดงานชั่วคราว ซึ่งเบื้องต้นทางโรงงานได้มีการสำรวจคนงานที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด โดยนอกจากจะให้ความช่วยเหลือตามมาตรการของโรงงานแล้ว ยังจะได้จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป
ข้อมูล/จาก/คนข่าวสาคร ฯ