"ช้างถั่วต้ม" ถูกยิงบาดเจ็บ เครื่องตรวจจับโลหะแจ้งเตือนพบโลหะตามบาดแผลทั่วร่างกายของช้างป่า

วันที่ 6 มีนาคม 2567 หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) หัวหน้าและสัตวบาลสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่าสัตวแพทย์ หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.2 (ศรีราชา) ร่วมกับสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน , สัตวแพทย์จากองค์การสวนสัตว์ และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมอาสาสมัครในพื้นที่ ได้เข้าติดตามอาการและรักษาช้างป่า บาดเจ็บ เพศผู้ ไม่มีงา จำนวน 1 ตัว (สีดอถั่วต้ม)ในพื้นที่ป่าบ่อชะอม ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี พบช้างป่าตัวดังกล่าวยืนอยู่ในร่องน้ำ โดยทีมสัตวแพทย์ได้วางแผนยิงยาซึมและตรวจรักษาโดยละเอียด พบว่าบาดแผลบริเวณทั่วร่างกายมีการติดเชื้อเป็นหนองและพบหนอนแมลงวันอยู่ในแผล จึงได้ล้างทำความสะอาดบาดแผล ใส่ยาฆ่าหนอนแมลงวัน พบแผลมีขนาดใหญ่บริเวณขาหลังซ้ายด้านใน ขาหลังขวา และขาหน้าขวา

ผลการตรวจสแกนโลหะ พบว่าเครื่องตรวจจับโลหะสามารถตรวจเจอและแจ้งเตือนการพบเจอโลหะตามบาดแผลทั่วร่างกายของช้างป่า เจ้าหน้าที่ฉีดยารักษาการติดเชื้อ ยาลดปวดลดอักเสบ ยาบำรุงร่างกาย รวมทั้งยาฆ่าหนอนแมลงวัน ทำการเก็บตัวอย่างเลือด สวอปในช่องปาก สวอปจากทวารหนัก สวอปจากบาดแผลเพื่อส่งตรวจห้องปฏิบัติการต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากทำการรักษาเสร็จสิ้นได้ให้ยาฟื้นจากยาซึม พบว่าช้างป่า ฟื้นจากยาซึมได้เป็นปกติ ขาหลังซ้ายยังบวมอยู่มากทำให้การลุกจากการนอน การเดินเป็นไปได้อย่างทุลักทุเล ช้างป่าสามารถกินอาหาร (กล้วย ขนุน) ได้พอประมาณ แต่การกินอาหารตามธรรมชาติพบน้อยเนื่องจากไม่ค่อยเดิน หลังจากนี้ทีมสัตวแพทย์จะติดตามอาการอย่างต่อเนื่ิองโดยพยากรณ์โรคมีโอกาสเสียชีวิต เนื่องจากร่างกายของช้างป่าน่าจะมีภาวะการสลายของกล้ามเนื้อจากการได้รับบาดเจ็บและนำไปสู่ภาวะไตวายทำให้เสียชีวิตได้

เครดิต กรมอุทยานแห่งชาติฯ