วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11:08 น.
29 กุมภาพันธ์ 2567 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดผยว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปภ.ได้เข้าชี้แจงงบประมาณต่อคณะอนุกรรมาธิการด้านการปกครองในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 สภาผู้แทนราษฎร โดยคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้ปรับลดงบประมาณรายการจัดหาอากาศยานปีกหมุน (Helicopter) ซึ่งเป็นสรรพกำลังเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติภารกิจแก้ไขและบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยที่เข้าถึงยากและมีความอันตราย ซึ่งปภ.จะได้หารือและจัดเตรียมข้อมูลเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อเสนอแนะและข้อสังเกตของคณะอนุกรรมาธิการฯ ในขั้นตอนต่อไป เพื่อให้มีการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ บรรเทาสาธารณภัยในการเตรียมความพร้อมและตอบสนองในการจัดการสาธารณภัยในปัจจุบันซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างมากขึ้น ซึ่งปัจจุบัน ปภ.มีเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA 32 ประจำการในหน่วยบินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเผชิญเหตุและตอบโต้ภัยพิบัติฉุกเฉิน เช่น การเข้าระงับเหตุอัคคีภัยในอาคารสูง การดับไฟป่า การช่วยเหลือ และขนย้ายผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงยากลำบาก รวมจำนวน 4 ลำ ซึ่งไม่เพียงพอต่อปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาสาธารณภัยทั่วประเทศ ปภ. จึงได้บริหารจัดการทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยส่งเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA 32 ไปประจำการในจังหวัดต่างๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาสาธารณภัยในระดับพื้นที่
ทั้งนี้ หากไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายการดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ซึ่งจำเป็นต้องมีจำนวนเพียงพอในการหมุนเวียนสับเปลี่ยน การปฏิบัติงานของเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 ให้มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยตามหลักนิภัยการบิน รวมถึงสามารถแก้ไขปัญหาและบรรเทาสาธารณภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากภัยพิบัติ รวมถึงสร้างความปลอดภัยแก่ประซาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับเฮลิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA-32 เข้าประจำการในหน่วยบิน ปภ. เมื่อปี 2562 จนถึงปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2567) มีจำนวนรวม 4 ลำ โดยในช่วงที่ผ่านมา ปภ. ได้ส่งเฮสิคอปเตอร์บรรเทาสาธารณภัย KA 32 เข้าปฏิบัติภารกิจสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ภารกิจดับไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือร่วมกับกองทัพภาศที่ 3 ภารกิจควบคุมพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้เคมีคอล จังหวัตสมุทรปราการ ภารกิจการดับไฟป่าเขาแหลม จังหวัดนครนายก ภารกิจการขนส่งสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในจังหวัดนครศรีธรรมราช รวมทั้งทำการฝึกการป้องกันและระงับอัคคีภัยในอาคารสูง และการฝึกซ้อมค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ถือได้ว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีสมรรถนะสูง ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในการดับเพลิง พื้นที่อาคารหรือตึกสูง รวมถึงภารกิจค้นหาและกู้ภัย โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์กู้ภัย ดับเพลิง รอกไฟฟ้า เตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมถึงมีถังบรรทุกน้ำขนาด 3,000 ลิตร และกระเช้าตักน้ำขนาด 5,000 สิตร จึงถือเป็นสรรพกำลังสำคัญของประเทศที่สามารถตอบโจทย์ในด้านศักยภาพทั้งการป้องกัน การลดผลกระทบ การเผชิญเหตุ การบรรเทาสาธารณภัย การให้ความช่วยเหลือประชาชน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสาธารณภัย
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน