วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10:24 น.
สืบนครบาลยุกจับกุมตัว เต้ย อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ฐาน “บุกรุกเคหสถาน , กระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” (พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ)โดยจับกุมตัวได้ที่ ภายในลิฟต์ คอนโดย่านเตาปูน ถ.กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพ
พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้ต้องหาถือเป็น นักข่มขืนต่อเนื่องสุดโรคจิต ตามสะกดรอยเหยื่อเด็กผู้หญิงที่ สวมชุดนักเรียนก่อนลงมือข่มขืน ก่อเหตุข่มขืนนักเรียนหญิงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ราย (ยังไม่แจ้งความอีกหลายราย) และเคยถูกจับกุมตัวไปแล้วตั้งแต่ 7 ก.ย. 2561 หลังจากก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงกว่า 2 คดี โดยเหตุการณ์ในครานั้นเหยื่อนักเรียนหญิงถูกสะกดรอยติดตาม จากนั้นคนร้ายปลอมตัวเป็นรถรับจ้างรับเธอกลับจากโรงเรียน พาเธอออกนอกเส้นทางไปยังใต้สะพานซังฮี้ ก่อนจะลงมือต่อยท้องก่อนจะข่มขืนกระทำชำเราเธอ
หลังโดนจับกุมและถูกส่งตัวเข้าไปรับโทษในเรือนจำอยู่หลายปี ล่าสุดได้พ้นโทษออกมาสู่สังคมแล้ว เมื่อความใคร่ได้ฝังเข้าไปอยู่ในสันดานของมนุษย์หื่นรายนี้แล้ว ก็ยากที่จะกลับตัวเป็นคนดี ในวันที่ 30 ต.ค. 66 ความหื่นไซโคพาธรายนี้ได้กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง โดยครั้งนี้เลือกเหยื่อเป็นเด็กนักเรียนหญิงวัย 12 ปี โดยแอบเฝ้าอยู่ที่บันไดหนีไฟของตึกที่พักย่านสาทรของเหยื่อ จนกระทั่งเห็นเหยื่อนักเรียนหญิงกลับมาจากโรงเรียนเพียงลำพัง มันเดินตามเธอมาอย่างเงียบๆจนถึงห้องพัก ทันทีที่เหยื่อนักเรียนหญิงไขประตูห้องพัก มันพุ่งปรี่เข้าไปประชิดตัวใช้มืออุดปากลากเธอเข้าไปในห้องพักแล้วลงมือข่มขืนเธอโดยไม่สวมถุงยางอนามัย ซ้ำยังขู่จะฆ่าเธอให้ตาย โชคช่วยที่ญาติของเหยื่อนักเรียนหญิงได้กลับมาที่ห้องพัก เมื่อเธอได้ยินเสียงไขประตูเธอฮึดสู้ “กรี้ด” สุดเสียงก่อนจะได้รับความช่วยเหลือได้ทันท่วงที
หลังเกิดเหตุ ญาติและเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งต่อมาก็ได้ทราบว่าคนร้ายคือ นายเต้ย มนุษย์หื่นไซโคพาธเจ้าเดิมที่ตระเวนก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนเมื่อช่วงปี 2560-2561 ชุดวิเคราะห์สืบนครบาลได้วิเคราะห์คนร้ายรายนี้แล้วไม่ใช่อาชญากรทั่วไป “เป็นอาชญากรต่อเนื่อง” ที่เป็นภัยสังคม
ในชั้นจับกุม นายเต้ย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา รับว่า “ตนเองเป็นอดีตข้าราชการ มีรสนิยมชอบเด็ก แต่ผู้เสียหายทั้งหมดที่ตนเองเคยถูกดำเนินคดีนั้น สมยอมทั้งหมด บางรายยังถ่ายภาพการช่วยตัวเองมาให้ตนเก็บไว้ดู โดยกล่าวโทษว่าเหยื่อเด็กเหล่านั้นร้ายกว่าที่คิด สร้างเรื่องให้ตนเองโดนคดี
ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าสะกดรอยซุ่มตามเหยื่อนั้น ตนเองไม่ได้ซุ่ม แต่แค่รู้ว่าบ้านของเหยื่ออยู่ที่ใด”หลังจับกุมตัว ได้นำตัว นายเต้ย ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุงมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหารายนี้ เพราะจากแผนประทุษกรรมคนร้ายรายนี้เป็น อาชญากรต่อเนื่องที่มีรสนิยม “ใคร่เด็ก” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหยื่อที่สวมชุดนักเรียน และจะใช้วิธีสะกดรอยติดตามเหยื่อจนสบโอกาสที่เหยื่ออยู่เพียงลำพัง ไม่มีผู้ปกครองคอยดูแล ก่อนจะลงมือข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งคนร้ายรายนี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาประเภทเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง เมื่อพ้นโทษออกจากเรือนจำออกมา กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก