หน้าแรก > ภูมิภาค

แจ้ง 2 ข้อหา มือเผานั่งยางในบ่อขยะ อ้างเพื่อนชักเสียชีวิตเอง พบหาข้อมูลวิธีเผานั่งยาง จ่อหมายจับเพิ่มอีก 1

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 12:32 น.


ตำรวจ สภ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ควบคุมตัว น.ส.ไก่ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าเผานั่งยาง น.ส.เบญญาภา อายุ 47 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ่อกำจัดขยะของ อบต.ละหานนา ก่อนจะมีการควบคุมไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.แวงน้อย และเตรียมนำตัวไปส่งฟ้องศาลจังหวัดพลในวันนี้ โดยนับตั้งแต่มีการระดมทีมสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุจะต้องเป็นคนที่รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี และหากผู้ตายไม่ใช่คนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ก็อาจจะเป็นคนพื้นที่อื่นที่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ขอนแก่นและจังหวัดใกล้ จึงได้ประกาศและประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อมวลชนว่า หากประชาชนหรือครอบครัวใดที่คนในครอบครัวหายตัวไปให้มาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งแปลกว่าแม้จะมีการประกาศไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่า จะมีญาติซึ่งเป็นคนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เข้ามาให้ข้อมูล คนที่เข้ามาให้ข้อมูลเมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าไม่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย จนกระทั่งสอบสวนเริ่มมีความชัดเจนขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลว่า ในพื้นที่ ต.ละหานนา อ.แวงน้อย มีหญิงรายหนึ่งที่ไม่ใช่ชาวบ้านในพื้นที่มาอาศัยอยู่กับหญิงรายหนึ่งในลักษณะคบหากันเป็นแฟน

โดยอาศัยอยู่ด้วยกันมาเกือบ 10 ปี แล้ว ทั้งคู่ประกอบอาชีพปลูกผักขาย เดินทางออกจากพื้นที่ไปก่อนวันพบศพถูกเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบถามชาวบ้านในละแวกพื้นที่ จนพบพิรุธว่า น.ส.ไพจิตร ได้บอกกับพยานบุคคลรายนี้ว่า จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวนสอบสวนต่อไปอีก จนพบข้อพิรุธหลายอย่าง จึงเชิญตัว น.ส.ไพจิตร มาสอบสวน จนให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือเผาศพผู้ตายจริง แต่ยังคงปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นคนฆ่า

จากการตรวจสอบย้อนหลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ในวันที่ 12 ก.พ.67 น.ส.ไก่ได้มีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องซื้อขายที่ดิน วันที่ 13 ก.พ.67 ได้มีการค้นหาวิธีการเผานั่งยาง มีการค้นหาว่า ธรรมชาติของศพหากตายแล้วกี่วันจึงจะเน่าเหม็น ซึ่งพฤติการณ์เหล่านี้ทำให้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ น.ส.ไก่ จึงต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อไปจนกว่าจะสิ้นข้อสงสัย คาดว่าจะมีร่วมก่อเหตุอีกอย่างน้อย 1 คน ซึ่งขณะนี้กำลังหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อออกหมายจับ

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “ลักทรัพย์หรือรับของโจร, ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย”

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม