วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 22:37 น.
หนุ่มแว้นหลอนยา ซิ่งรถหลบหนีก่อนโยนยาทิ้ง สุดท้ายถูกรวบคาบ้าน พ่อหวั่นสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน
กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) โดยพล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล. พร้อมกำลังชุดจับกุม กก.2 บก.ทล. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.บางหลวง จ.นครปฐม ร่วมกันจับกุม นายพงษ์ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ในข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต,ขับรถในขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าเม็ดสีส้มประทับตรา WY จำนวน 10 เม็ด และยาบ้าเม็ดสีเขียว จำนวน 1 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายที่ผู้ต้องหาโยนทิ้งขณะหลบหนี
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 ก.พ.67 ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง (นครปฐม) กำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้พบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันหนึ่งกำลังขับขี่อยู่ด้านหน้ารถวิทยุสายตรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่ขับตามไปประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเริ่มสังเกตเห็นอาการพิรุธของผู้ขับขี่ จึงได้เปิดสัญญานไฟและเรียกให้ผู้ขับขี่จอดรถข้างทางเพื่อขอทำการตรวจสอบ แต่ปรากฏว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด โดยระหว่างการติดตามเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สังเกตเห็นอาการของผู้ขับขี่คล้ายกับบุคคลที่เพิ่งเสพยาเสพติด ขับขี่รถด้วยความเร็วสูงโดยไม่ได้สวมหมวกกันน็อค ซึ่งเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้เครื่องขยายเสียงเตือนให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ชะลอความเร็ว แต่ผู้ขับขี่กลับโยนกระเป๋าสะพายทิ้ง และเร่งความเร็วขับรถหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงหยุดรถและลงไปตรวจสอบกระเป๋าสะพายดังกล่าว พบว่าภายในกระเป๋าสะพายที่ถูกโยนทิ้งไว้ มียาบ้า จำนวน 11 เม็ด จนต่อมาพบว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ คือ นายพงษ์ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางหลวง นำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านพักของนายพงษ์ พบนายพงษ์ นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก มีอาการหลอนยาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและควบคุมตัว โดยนายพงษ์ พูดจาวกไปวนมา ยิ้มและหัวเราะสลับไปมา ก่อนจะยอมรับว่าตนเองเพิ่งเสพยาบ้ามาจริง โดยหลังจากเสพยาแล้วจึงได้ออกมาขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นตามท้องถนน จนกระทั่งมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้นำตัวผู้ต้องหา ไปทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจพบสารเสพติดอยู่ในร่างกาย จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งนายพงษ์เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน เสพและครอบครองยาบ้า มาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนจะมาถูกจับกุมในครั้งนี้
ด้านบิดานายพงษ์ ยอมรับว่า ลูกชายติดยาเสพติดมาโดยตลอด ระยะหลังมีการอาการหลอนยาอย่างหนัก พูดจาวกไปวนมา ยิ้มหัวเราะคนเดียว และมักจะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปตามท้องถนน หวั่นจะเกิดอุบัติเหตุ สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่น นอกจากนี้ตนยังเคยถูกลูกชายทำร้ายอยู่บ่อยครั้งเวลาหลอนยา