นายธงชัย (ขอสงวนนามสกุล) หรือ “แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ” อายุ 28 ปี ถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ เบอร์ 12 และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 รวม จำนวน 10 กระบอก สภาพบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุพร้อมจัดส่งให้แก่ผู้รับเป็นที่เรียบร้อย

และแจ้งข้อหา ” มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายซึ่งอาวุธปีนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุมได้ขณะขับรถกระบะส่วนตัวนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไปจัดส่งให้แก่ลูกค้า บริเวณหมู่ 17 ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์

จากการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายที่ลับลอบจำหน่ายอาวุธปืนต่าง ๆ ทางออนไลน์จนพบว่า แบงค์ เพชรบ้านเอื้อ มีพฤติกรรมลักลอบนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาดต่าง ๆ ส่งจำหน่ายทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอีก 1 ตัวการสำคัญซึ่งเป็นต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นในสังคมอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายที่ต้องรีบสืบสวนจับกุมให้ได้โดยเร็ว

จากการซักถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่า ตนอยู่ระหว่างเรียนคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่ง ซึ่งใกล้จบแล้ว เดิมทีเป็นช่างซ่อมจักรยานยนต์ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี จึงหันมาเป็นเชฟทำอาหารอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครสวรรค์ ทำอยู่ 1 ปี รู้สึกเบื่อกับงานที่ทำ ต่อมาช่วงประมาณต้นปี 2564 เพื่อนที่รู้จักได้ชักชวนให้ไปเอาอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี ในราคา 4,000 บาท เพื่อนำมาขายต่อในราคา 6,000 บาท เห็นว่าได้กำไรดี จึงยึดเป็นอาชีพหลักตลอดมา

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การอีกว่า จนเมื่อประมาณเดือน ต.ค.2564 ถูกจับกุม ในความผิดฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” (ครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียน) ที่บ้านในโครงการเอื้ออาทรนครสวรรค์ 2 ครั้งนั้นศาลตัดสินลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาท (โทษจำคุกรอลงอาญาสองปี) ช่วงนั้นเลยหยุดการไปรับปืนมาขายไป

ผู้ต้องหาให้การด้วยว่า กระทั่งช่วงเดือนพ.ย.2566 ตนจึงกลับมาทำอีก จนมาถูกจับกุมในที่สุด เงินที่ได้จากการจำหน่ายอาวุธปืนนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เลี้ยงไก่ หาความสุขใส่ตัวไปวัน ๆ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดี นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป