หน้าแรก > อาชญากรรม

"กัน จอมพลัง" พาครอบครัวผู้เสียหาย ร้องขอความเป็นธรรม หลังลูก-หลานถูกแก๊งเยาวชนรุมทำร้ายร่างกาย ไปแจ้งตำรวจไม่รับแจ้งความ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 03:11 น.


"กัน จอมพลัง" พาครอบครัวผู้เสียหาย ร้องขอความเป็นธรรม หลังลูก-หลานถูกแก๊งเยาวชนรุมทำร้ายร่างกาย ไปแจ้งตำรวจไม่รับแจ้งความ

วันที่ 20 ก.พ. 67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน จากกรณีที่ชาวบ้านหลายครอบครัว พาลูกหลานนั่งรถไฟนานร่วม 16 ชั่วโมง ออกจาก จ.นครศรีธรรมราช มาขอให้ผมช่วย เพราะทนไม่ไหวกับพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นทะลุถุงในจังหวัด ดักทำร้ายเอามีดไล่แทงเด็ก ตอนกลางคืนขับรถไปตามหมู่บ้านเอาปืนออกมายิงชาวบ้านแถมคนก่อเหตุเป็นลูกตำรวจในพื้นที่ ไม่เกรงกลัวอะไร อีกทั้งหลังก่อเหตุไม่รู้ใช้วิธีไหน เอากล้องวงจรปิดในพื้นที่ออกมาโพสต์ลงสตอรี่ โชว์ว่าไปไล่กระทืบคนมา แถมชอบโพสต์โชว์ปืนเป็นประจำ เหยื่อถูกแทงทั้ง 2 เคสแจ้งความตำรวจเงียบ บอกเพียงเคสเด็กทำยาก ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพ กลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุสวมใส่เสื้อแขนยาวขายาว ประมาณ 5-6 คน ยืนรอดักอยู่บริเวณลานจอดรถในห้าง ก่อนที่จะมี ผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา กลุ่มวัยรุ่นก็ได้กระโดดถีบ กระทืบ และชายเสื้อสีครีมหยิบอาวุธมีดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ จ้วงแทงกระหน่ำหลายครั้งก่อนที่ ผู้บาดเจ็บจะวิ่งหนีผ่านกล้องวงจรปิดนอกห้างไป และยังมี กลุ่มวัยรุ่นคนร้าย ยังคงวิ่งไล่ตาม

ต่อมาภาพคลิป คลิปวิดีโอแนวตั้งเป็นภาพหลังจากเหตุการณ์แทงกันในห้างสรรพสินค้าโดยได้มีพนักงานให้การช่วยเหลือ อีกทั้งภาพวีดีโอและภาพนิ่งของกลุ่มนี้ได้มีการถ่ายคลิปและรูปสตอรี่ อัพโชว์ อาวุธปืนหลายกระบอก และภาพถ่ายยิงปืนเข้าใส่กำแพง โชว์ศักยภาพ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ทางด้านของ กันจอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองพาผู้เสียหายทั้งหมด 3 ครอบครัว เดินทางมาจากนครศรีธรรมราช ทั้ง 3 ครอบครัวเดินทางมาด้วยรถไฟทั้งหมด 16 ชั่วโมง เพื่อมาขอความเป็นธรรมให้กับลูกหลาน จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากมีกลุ่มแก๊งทะลุถุงยางมาเกิดในพื้นที่ ก่อเหตุอุกอาจ ก่อความวุ่นวาย ในพื้นที่ โดยไล่ทำร้ายเด็กในพื้นที่ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แถมยังเอากล้องวงจรปิดเอามาโพสต์ โอ้อวดลงโซเชียล ซึ่งยังแปลกใจว่าเด็กกลุ่มนี้ เอาคลิปกล้องวงจรปิดจากทางห้างได้อย่างไร

เบื้องต้นตนเองได้ตรวจสอบแก๊งนี้ พบว่าทีสมาชิกทั้งหมด 40-50 คน แถมยังมีลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วย โดยแก๊งทะลุถุง จะก่อเหตุไปเรื่อย ประกาศศักดา คอยไล่ยิง ไล่ฟัน เด็กในพื้นที่หลังจากเกิดเหตุ คุณยายของผู้เสียหายเดินทางไปแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับบอกว่า เป็นคดีเยาวชน จับตัวยาก ดำเนินคดียาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ซึ่งหลานไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ทำให้คุณยายต้องเดินทางไปสถานีตำรวจถึง 3 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปฎิเสธไม่รับแจ้งความ บอกให้ผู้ปกครองเด็กมาแจ้งความเอง ตนขอตั้งคำถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำไมถึงไม่ให้ความช่วยเหลือประชาชน อย่างน้อยรับเรื่องแจ้งผู้ใหญ่บ้าน แจ้งกำนันในพื้นที่ ให้เข้าไปดูแลช่วยเหลือ ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้องตอนนี้ชาวบ้านแฃะประชาชนไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเดินทางมาหาตนเอง ตนจึงประสานท่าน พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยื่นหนังสือ และหลักฐาน ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

โดยคุณแม่หนึ่งในผู้เสียหายได้เปิดใจเล่าทีมข่าวฟังว่าวันที่ 1 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 22.00น. ลูกชายของเธอออกไปซื้อของที่ตลาดโต้รุ่ง ทุ่งสง อ.อำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ จากนั้นกลุ่มนี้ก็ยิงปืนใส่ลูกชายของเธอจากนั้นทั้งหมดก็ลงมามัดมือลูกชายของเธอและรุมทำร้ายทั้งการใช้มีดฟันและใช้ปืนข่มขู่ ลูกชายของเธอได้ยกมือขึ้นมาป้องกันไม่ให้โดนบริเวณศีรษะจึงทำให้ถูกฟันเข้าที่มือจนเอ็นขาด และมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะเข่าข้อเท้า

โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้เธอได้ติดต่อไปทางห้างที่เกิดเหตุเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดแต่ทางห้างปฏิเสธอ้างว่าต้องให้ตำรวจเป็นคนมาขอ แต่เธอพบว่าทางกลุ่มผู้ก่อเหตุมีคลิปกล้องวงจรปิดแล้วมาโพสต์ลงโซเชียลเป็นการยั่วยุ เธอจึงสงสัยว่าทำไมเด็กกลุ่มนี้ถึงได้กล้องวงจรปิดทั้งที่เป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ครอบครัวของเธอต้องอยู่อย่างวาดกลัวเนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังวนเวียนอยู่หน้าบ้านของเธอ

ด้านผู้เสียหายอีกคนเล่าให้ฟังว่า ลูกชายได้ไปเดินเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และพบว่าได้มีกลุ่มวัยรุ่นเดินตามตลอดเวลาที่อยู่ในห้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเอะใจอะไร ต่อมาลูกชายก็ได้เดินลงมาที่ลานจอดรถ เพื่อที่เดินทางกลับบ้าน ในขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านนั้น ปรากฏว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ลงมาล้อมรถจักรยานยนต์ และรุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธมีดฟันมาที่หลัง อีกทั้งยังขโมยเสื้อที่ลูกชายซื้อมาเอาไปอีกด้วย เคราะห์ดีที่ลูกชายของตนสามารถวิ่งหนีออกมาไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านได้ทัน ต่อมาพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำภาพจากกล้องวงจรปิด มาโพสต์ลงโซเชียล ซึ่งผู้เสียหายเคยไปถามหาจากห้างสรรพสินค้า และห้างสรรพสินค้าก็ไม่ได้ให้ไปพร้อมกับอ้างว่าต้องมีหนังสือขออนุญาตจากทางตำรวจมา ผู้เสียหายจึงกลับบ้านและกลุ่มก่อเหตุนำคลิปดังกล่าวมาจากไหน ทางห้างสรรพสินค้าก็น่าจะตอบว่าเดี๋ยวจะขอไปตรวจสอบก่อนว่าคลิปดังกล่าวใครเป็นคนเผยแพร่

นอกจากนี้โดยหลังจากแจ้งความแล้ว ทางตำรวจกับไม่ช่วยดำเนินการใด ๆ พร้อมกับบอกอีกว่า ทำไมเวลามีเรื่องต้องมาร้องให้ตำรวจช่วยเหลืออยู่ตลอด ทำไมไม่ไปหาผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนันบ้าง ซึ่งทำให้ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องให้กัน จอมพลังช่วยเหลือ เพราะตอนนี้ตนยังรู้สึกหวาดระแวง ขนาดได้ยินเสียงประทัดก็ยังทำให้รู้สึกหวาดกลัว

ขณะที่ผู้เสียหายคนสุดท้ายคุณยายอายุ 72 ก็เล่าให้ฟังว่า หลานชายของตนถูกวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว ใช้อาวุธมีดแทงเข้าที่ไต ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องพักรักษาตัวนานกว่า 6 เดือน ซึ่งหลังก่อเหตุยายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ แต่ปรากฏว่าตำรวจได้ไล่ให้ยายไปตามหา พ่อ - แม่ของเด็กมาแจ้ง แต่ยายก็จนปัญญาเพราะพ่อ-แม่เด็ก ทิ้งเด็กคนนี้ไว้ให้แกเลี้ยงตั้งแต่ 1 เดือน ทำให้ต้นรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และยังรู้สึกหวาดระแวง เนื่องจากว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังคงชักชวนพรรคพวกมาชี้เป้าที่บ้านของตน และมาก่อความวุ่นวายใช้อาวุธปืนยิงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

ทางด้าน พลตำรวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ท่าน พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้สั่งการ ประสานทาง ผู้บังคับการ ตำรวจภูธร ภาค 8 ทางผู้การนครศรีธรรมราชได้เรียกประชุมและทราบตัวของผู้ก่อเหตุหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจับกุมในเร็ววัน ในส่วนของพนักงานสอบสวนที่ใช้วาจาไม่เหมาะสม ทำให้ทางประชาชนไม่พอใจ จะทำการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งหากพลว่าผิดวินัยตำรวจ จะดำเนินการทางด้านวินัยอย่างแน่นอน ในส่วนของอาวุธไทยประดิษฐ์ที่นำมาโชว์ลงโซเชียล เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมผู้ครอบครองแล้ว 1 ราย พร้อมยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์มาแล้ว 2 กระบอก ในส่วนของผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ หากผู้ปกครองปล่อยประละเลย ให้บุตรหลานของท่านออกมาก่อเหตุแบบนี้ ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย เช่นกัน ยืนยันจะไม่มีการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดอยากให้ประชาชนมั่นใจ ว่าทางเจ้าหน้าที่ จะดำเนินการในทุกมิติ จะดำเนินการอย่างยุติธรรม และจับคนร้าย ทะลายแก็งค์วัยรุ่นดังกล่าวให้ได้ทั้งหมด

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม