หน้าแรก > สังคม

สำนักพุทธฯ จ.นนทบุรี บุกจับพระปลอม อ้างเป็นทั้งพระเป็นทั้งนักข่าว พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 3 ครั้ง

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 21:18 น.


จากกรณีชาวบ้านได้ส่งคลิปวิดีโอร้องเรียนไปทางเพจกล้าที่จะก้าว ว่ามีพระสงฆ์มายืนบิณฑบาตรที่หน้าตลาดประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี โดยมีพฤติกรรมนำอาหารที่ชาวบ้านใส่บาตรกลับมาเวียนขาย นอกจากนี้ยังยืนปักหลักไม่ออกเดินรับบาตร ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพระปลอม นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าวพร้อมทีมงานจึงได้ติดตามดูพฤติกรรมพระดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 จนทราบว่าพระรูปนี้เคยถูกจับสึกและดำเนินคดีมาแล้ว

กระทั้งวันนี้ เมื่อเวลา 08.30 น. นายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าวพร้อมทีมงาน ได้ประสาน นายคม ภัทรกุลประเสริฐ ผอ.สำนักพุทธ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.นนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณตลาดประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี พบพระสงฆ์ยืนรอรับบาตรและพระสงฆ์นั่งเก้าอี้ระหว่างรอญาติโยมมาใส่บาตร ที่บริเวณด้านข้างร้านขายอาหารบรรจุถุง หน้าตลาดประชานิเวศน์3 จึงได้เข้าตรวจสอบขอดูใบสุทธิบัตร พบว่าไม่มีเอกสารแสดงความเป็นพระ จึงได้นำตัวส่งวัดบัวขวัญ เพื่อให้เจ้าคณะตำบลบางกระสอ และพระวินยาธิการ ทำการสอบสวน ในระหว่างนำตัวส่งพระรูปดังกล่าวอ้างว่า เป็นนักข่าวเพราะมีบัตรนักข่าวห้อยอยู่ที่คอ ซึ่งเป็นบัตรนักข่าวของหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง

ในระหว่างจับกุมพระรูปดังกล่าว ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าแถวนี้จะมีพระมายืนบิณฑบาตรแบบนี้ประจำ จำนวนกลายรูป นอกจากนี้วันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะมาเรี่ยไร ส่วนตัวเองจะไม่เคยใส่บาตรแบบนี้ ถ้าจะทำบุญจะไปทำที่วัด ตนรู้สึกเศร้าและกลัว เพราะศาสนาอื่นเขามองว่าเราเป็นขอทาน ปกติจะเห็น 3-4 รูปมาอยู่แถวนี้ ตนเคยถามว่ามาจากวัดไหนพระก็ตอบไม่ได้ บางทีก็เป็นพระมาจากเขมร บางทีตนก็เห็นมาเปลี่ยนชุดแถวนี้ 

ต่อมาเวลา 10.00 น.ที่วัดบัวขวัญพระอารามหลวง พระเจ้าคณะตำบลท่าทราย และพระวินยาธิการ ผอ.สำนักพุทธฯ พยายามสอบถามถึงเอกสารใบสุทธิพระ ก็อ้างว่าไม่ได้พกมา และอ้างว่าเป็นพระอยู่ที่ สำนักสงฆ์อาพาต ที่ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ทราบชื่อคือ พระว. (นามสมมติ) อายุ 60 ปี จึงได้มีการตรวจสอบสำนักสงฆ์ดังกล่าว แต่ไม่พบว่ามีสำนักสงฆ์จริงตามที่บอก และยังพบว่าเมื่อปี 2566 ได้ถูกจับสึกที่วัดเสมียนนารี จึงได้ให้พระวีรศิลป์ ทำการเปลี่ยนชุดออก เพราะว่าหมดจากความเป็นพระตั้งแต่ปี 2566 แต่ พระว. (นามสมมติ) ไม่ยอมเปลี่ยน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ทำการควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดี

ต่อมาเวลา 13.00 น.ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการสอบปากคำ และตรวจสอบตามสถานที่ที่กล่าวอ้างแต่ไม่มีการยืนยันตัวตน จึงให้ทำการเปลี่ยนชุด แต่พระวีรศิลป์ ยังดื้อก็ไม่ยอมเปลี่ยนชุด ยืนยันว่ามีใบสุทธิ และได้ติดต่อเพื่อนที่เป็นพระให้เข้ามาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งเป็นพระจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่มาอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์เดียวกัน จึงได้ตรวจสอบไปยังต้นสังกัดพบว่าเป็นพระจริง แต่ไม่ได้แจ้งวัดที่เข้ามาอาศัยในจ.นนทบุรี จึงได้เชิญพระวินยาธิการให้เดินทางมาตัดสิน ซึ่งมีคำสั่งให้ส่งตัวกลับวัดต้นสังกัดทันที ส่วนพระวีรศิลป์ ให้ทำการเปลี่ยนชุดเพราะไม่ใช่พระสงฆ์ และให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย 

เบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบประวัติทั้งหมด พบว่า พระว. (นามสมมติ) เคยถูกจับดำเนินคดีมาแล้ว 3 ครั้ง ที่พื้นที่ สน.บางโพ ปี 2564 , สน.ประชาชื่น ปี 2564 และถูกออกกมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ปี 2566 ทั้งหมดถูกตั้งข้อหาว่า แต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุ สามณร นักพรต หรือนักบวชในศาสนาใดโดยมิชอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ควบคุมตัว นายวีรศิลป์ นิติอภัยธรรม ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม