รวบแก๊งซิมผี รับจ้างเปิดแอปฯ ไลน์อวตาร ให้เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ โฆษณามอมเมาคนให้ร่วมเล่นพนัน

(15 ก.พ.67) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นาย ก. (นามสมมุต) อายุ 25 ปี ฐานความผิด “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ และร่วมกันโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันฯ” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี                

พฤติการณ์ กองบังคับการปราบปราม ได้มีนโยบายในการปราบปราม ระดมกวาดล้างการกระทำความผิด ที่สืบเนื่องมาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังคงระบาดหนักในประเทศไทย ส่งผลให้มีประชาชนถูกหลอกลวงเสียหายกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน โดยกลุ่มแก๊งเหล่านี้มักจะตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่บริเวณชายแดนรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงอยู่ตลอดเวลา ตำรวจจึงต้องรู้ให้เท่าทันแผน พฤติกรรมของคนร้ายด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในแผนประทุษกรรม ยอดฮิตที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เป็นประจำ คือ การโทรศัพท์หาผู้เสียหายโดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ให้เหยื่อหลงเชื่อว่ากระทำผิดกฏหมาย หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมต่างๆ จนผู้เสียหายกลัวและหลงเชื่อยอมโอนเงินให้คนร้าย

​สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ได้จับกุมนาง ถิ ทูง อายุ 39 ปี สัญชาติเวียดนาม เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมของกลาง เครื่องซิมบ็อกซ์ จำนวน 12 เครื่อง, ซิมการ์ดจำนวน 2,000 ซิม,คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก จำนวน 7 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องมือสื่อสารของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในลักษณะที่ใช้หนองคายเป็นฐานส่งสัญญาณ ส่วนแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน มีการใช้เบอร์โทรศัพท์ซึ่งเป็นเบอร์ไทย ซิมไทย โทรเข้ามาและส่งสัญญาณไปยังประชาชนผู้ใช้โทรศัพท์เพื่อหลอกลวงสร้างความเสียหายแก่ผู้หลงเชื่อ เนื่องจากเป็นเบอร์โทรศัพท์ในประเทศไทย ผู้บังคับบัญชา จึงสั่งการให้ กก.3 บก.ป. ทำการสืบสวนขยายผลจากกรณีดังกล่าว

จากการสืบสวนทำให้ พบว่า มีเครือข่าย “หงส์” เป็นเครือข่ายที่มีพฤติการณ์จำหน่ายซิมโทรศัพท์มือถือที่ไม่ได้ลงทะเบียนชื่อผู้ใช้งานจริง (ซิมผี คือซิมที่มีการลงทะเบียน ซึ่งเมื่อการตรวจสอบแล้วพบว่า มีการลงข้อมูลผู้ใช้ที่ไม่ถูกต้อง เช่น ใช่ชื่อบุคคลต่างด้าว อักษรภาษาอังกฤษที่ไม่มีความหมาย เพื่อยากต่อการติดตาม) ให้กับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ และเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ทั่วประเทศ ซึ่งใน 3 ปี ที่ผ่านมามีผู้เสียหายทั้งในและนอกประเทศมากกว่า 10 ล้านคน เสียหายกว่า 3,000 ล้านบาท โดยเครือข่าย “หงส์” มีการจัดส่งซิมผีไปให้ลูกค้าในรายของนาย ก. ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งในห้วงเวลา 2 เดือน พบว่านาย ก. สั่งซื้อซิมผีจากเครือข่าย“หงส์” จำนวน 8 ครั้ง รวมกว่าประมาณ 2,500 ซิม

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานีก่อนเข้าตรวจค้นบ้านพักของนาย ก.

จากการตรวจค้นพบซิมผีจำนวนมาก เมื่อตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือนายฐิติกรฯ ประกอบการซักถามปากคำ นาย ก. ได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างนำซิมผีมาใช้สมัครบัญชีผู้ใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ แล้วนำไปใช้เป็นช่องทางในการโฆษณาชักชวนให้ประชาชนเข้ามาเล่นพนันออนไลน์  ให้กับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์นอกประเทศ ได้รับค่าจ้างเป็นเงินสกุลดิจิทัล (USDT) จากกระเป๋าเงินดิจิทัลของนายทุนต่างชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางซิมผี รวมถึงอุปกรณ์นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป