หน้าแรก > อาชญากรรม

ปอศ.รวบหนุ่มลาว ซื้อขายคริปโต ฟอกเงินให้แก๊งหลอกลงทุนออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 180 ล้านบาท

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 23:29 น.


ปอศ.รวบหนุ่มลาว ซื้อขายคริปโต ฟอกเงินให้แก๊งหลอกลงทุนออนไลน์ เงินหมุนเวียนกว่า 180 ล้านบาท

12 ก.พ.67 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) โดย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม MR.SOMNEUK อายุ 27 ปี สัญชาติ-ลาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลง 24 ต.ค.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน” จับกุมได้ที่จุดตรวจบุคคลและพาหนะสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมเกี่ยวกับการหลอกลงทุนออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามปฏิบัติการ Anti Online Scam (AOC) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้จับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการหลอกลงทุนและแก็งคอลเซ็นเตอร์ โดยจาการสืบสวนหาข่าวพบ MR.SOMNEUK สัญชาติลาว อยู่บริเวณจุดตรวจบุคคลและพาหนะ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย จึงได้ดำเนินการจับกุม

ซึ่งผู้ต้องหาดังกล่าว เป็นผู้ต้องหาสำคัญในคดีที่มีการหลอกลงทุนเทรดหุ้นผ่านเฟซบุ๊กที่มีการชักชวนต่อสาธารณะ โดยนำเสนอรูปแบบการลงทุนต่างๆ ที่มีการการันตีผลตอบแทนสูงภายในระยะเวลา 5 – 20 นาที ซึ่งกลุ่มคนร้ายมีการแอบอ้างและปลอมเพจของบริษัททองชื่อดัง ทำให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนจนเกิดความเสียหายหลายล้านบาท โดยผู้ต้องหาดังกล่าว มีหน้าที่สำคัญเป็นผู้นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายไปทำการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านบัญชีของผู้ต้องหากับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นการถ่ายเงินให้กับกลุ่มขบวนการหลอกลงทุน จากการตรวจสอบบัญชีพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารมากกว่า 180 ล้านบาท

โดยหลังจากการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมพบข้อมูลว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อกลางปี 2566 เพื่อทำการเปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทย โดยใช้เป็นบัญชีซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี หลังจากนั้นเดินทางกลับไปที่ประเทศลาว เพื่อทำการดำเนินการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีให้กับกลุ่มขบวนการหลอกลงทุนอยู่ที่ประเทศลาว เบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นผู้เปิดบัญชีธนาคาร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจริง ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม