หน้าแรก > การเมือง

นายกฯ แถลงผลการแก้ไขหนี้ทั้งระบบคืบหน้า ไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 57 % ชมทุกหน่วยร่วมแก้ไขปัญหา ย้ำ! แก้ไขหนี้ทั้งระบบจบรัฐบาลนี้

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14:25 น.


นายกรัฐมนตรี แถลงผลการแก้ไขหนี้ทั้งระบบคืบหน้า ไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 57% มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท ชื่นชมทุกหน่วยงานร่วมแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ ปชช. อย่างจริงจัง ย้ำแก้ไขหนี้ทั้งระบบจบรัฐบาลนี้

วันนี้ (12 กพ.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนำทีมแถลงความคืบหน้าแก้หนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ ซึ่งมีทั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย, พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ,นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ปรึกษานายกฯ ร่วมแถลง โดยยืนยันว่า จะแก้หนี้ทั้งระบบให้เสร็จสิ้นภายในรัฐบาลชุดนี้ โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้บูรณาการทั้งระบบในการแก้ปัญหา มีการจัดตั้งตลาดนัดแก้หนี้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เปิดให้ลูกหนี้นอกระบบมาลงทะเบียน ประสานเจ้าหนี้ในการเข้ามาแก้ปัญหา ให้ลดดอกเบี้ยเป็นไปตามกฏหมายที่กำหนด และดำเนินคดีกับเจ้าหนี้ที่ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า ลูกหนี้บางส่วนไม่ยอมมาลงทะเบียน ก็ขอความร่วมมือในการลงทะเบียน เพื่อให้เกิดการช่วยเหลืออย่างครบวงจรเบ็ดเสร็จ

ส่วนลูกหนี้ในระบบ มีการประสานทั้งลูกหนี้ ในส่วนชาวบ้าน เกษตรกร ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้ง 4 กลุ่ม พร้อมให้สหกรณ์ออมทรัพย์ ให้ลดดอกเบี้ยเหลือไม่เกิน ร้อยละ 4.75 กำหนดนโยบายให้ลูกหนี้ที่มีเงินเดือน ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครู ตำรวจ กำหนดแผนจะต้องมีเงินเดือนเหลือจากหักหนี้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 มีการขอให้ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรกรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) ช่วยเข้ามาดูแล ผ่อนปรนดอกเบี้ย ฝึกอาชีพ เพื่อไม่ให้ลูกหนี้กลับไปเป็นหนี้เสียซ้ำอีก นับเป็นแนวทางแก้หนี้ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือ ธนาคารพาณิชย์ช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้เรื้อรัง นำไปสู่อัตราดอกการลดดอกเบี้ยในระบบให้ต่ำเหลือร้อยละ 3-5 พร้อมให้ดำเนินการหักเงินเดือนในลักษณะหักเงินต้นและดอกเบี้ยควบคู่กันไปด้วย

สำหรับแก้หนี้นอกระบบตั้งแต่ 1 ธ.ค.66 ไกล่เกลี่ยสำเร็จไปแล้ว 12,000 กรณี มูลหนี้ลดลง 670 ล้านบาท จากผู้ลงทะเบียน 1.4 แสนราย หนี้รวม 9,800 ล้านบาท มีการให้ข้อมูลครบทั้งลูกหนี้-ลูกหนี้ 2.1 หมื่นราย

สำหรับการดำเนินการช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบดำเนินการ 4 ขั้นบันได
1.ดำเนินการเชิงรุก ประชาสัมพันธ์การลงทะเบียน และเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการแก้หนี้ได้อย่างสะดวก ทาง ก.มหาดไทยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เปิดตลาดนัดแก้หนี้ในทุกจังหวัด อย่างน้อยเดือนละ 4 หน
2.เจ้าหน้าที่ตำรวจกวาดล้างเจ้าหนี้นอกระบบ ในส่วนที่ทวงหนี้รุนแรงทั้งกรณีรีบจำนำรถยนต์ จักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมาย
3.มอบ ก.คลัง โดย ธนาคารออมสิน , ธ.ก.ส.ร่วมจัด หาแหล่งเงินลงทุนดอกเบี้ยต่ำ หลังการไกล่เกลี่ยหนี้ และ จัดพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มแก่ลูกหนี้ ซึ่งได้ย้ำว่า ขอให้ 2 แบงก์รัฐนำเงินไปช่วยลูกหนี้ที่ยากลำบาก ดีกว่ากอดกำไรเพียงอย่างเดียว
4.ช่วยเหลือลูกหนี้ ไม่ให้กลับมาเป็นหนี้ซ้ำอีกให้มีรายได้เพิ่ม โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ก.แรงงาน ก.อุตสาหกรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมเสริมทัพ พัฒนาฝีมือแรงงานให้ สร้างรายได้เพิ่ม นับเป็นการแก้หนี้อย่างยั่งยืน

ส่วนลูกหนี้ในระบบ ได้จัดลูกหนี้ออกเป็น 4 กลุ่ม มีความคืบหน้าไปตามลำดับได้แก่
1.ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โควิด-19 หรือลูกหนี้รหัส 21 ได้ช่วยเหลือ 6.3 แสนบัญชี วงเงิน 4 พันล้านบาท คาดว่าราว 3 แสนราย ธนาคารออมมสินและ ธ.ก.ส.จะมี มีการประสานให้ปิดหนี้ได้ปลาย ก.พ.นี้ ส่วนเอสเอ็มอี จะช่วยให้สถานะการกู้กลับมาปกติ ไม่ติดเครดิตบูโร โดย ขณะนี้กำลังช่วยเหลือ เอสเอ็มอีราว 1 หมื่นราย วงเงิน 5 พันล้านบาท
2.กลุ่มลูกหนี้รายได้ประจำ แต่มีหนี้เกินศักยภาพ เช่น ข้าราชการ ครู ตำรวจ ทหาร ขอให้สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ลดดอกเบี้ยเหลือไม่เกินร้อยละ 4.75 ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯได้รายงานว่ามี 80 สหกรณ์ ทยอยลดดอกเบี้ย คาดจะช่วยได้กว่า 3 พันราย กลุ่มนี้ยังเป็นลูกหนี้บัตรเครดิต 1.5 แสนบัญชี ทางออมสินกำลังเจรจากับภาครัฐ เพื่อสนับสนุนสินเชื่อสวัสดิการ
3.กลุ่มรายได้ไม่แน่นอน เร่งช่วย เกษตรกร พักชำระหนี้ 1 ปี 1.8 แสนราย มูลหนี้ 2.5 แสนล้านบาท เงินกู้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 6 แสนราย ทำแผนช่วยลดภาระปลดหนี้ โดยสามารถลดภาระแล้วราว 3.5 ล้านราย ราว 4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายใหม่ของ กยศ.ที่มีการคำนวณเรื่องการคืนหนี้ใหม่
4.หนี้เสียคงค้าง เป็นเวลานาน ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการกำหนดหลักเกณฑ์ร่วมทุนในการให้ธนาคารจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เป็นบริหารสินทรัพย์ โดยธนาคารออมสิน เตรียมร่วมทุนจัดตั้งบริหารทรัพย์สิน ในไตรมาส 1/67 จะมีการโอนหนี้ขายไปยังบริษัทใหม่และจะมีการช่วยเหลือลูกหนี้แบบผ่อนปรนต่อไป

“2 เดือนนี้ ภาครัฐบูรณาการช่วยเหลือหนี้ทั้งระบบอย่างเต็มที่ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ จริงของรัฐ เพื่อช่วยให้ ลูกหนร้หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ แต่ต้องขอความร่วมมือเจ้าหนี้- ลูกหนี้ สมัครเข้าโครงการให้ข้อมูลอย่างถูกต้อง เพื่อให้แก้ปัญหาตรงจุด โดยลงทะเบียนที่ที่ว่าการอำเภอ สำนักเขต โทร 1567 หรือศูนย์ดำรงธรรม ขอให้อย่ารอ จนเป็นหนี้เสีย ขอให้เชื่อมั่น แก้หนี้สิน จะแก้หนี้ทั้งระบบให้จบในรัฐบาลนี้ให้ได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม