หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบยกแก๊งชิงทองกลางห้างดัง อ.ไชยา สุราษฎร์ธานี มีเยาวชนร่วมด้วย

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13:24 น.


ความคืบหน้าเหตุคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนขนาด.38 จำนวน 3 กระบอกบุกชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราช ในห้างดัง สาขาไชยา ริมถนนทางหลวงเอเชีย 41 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้ทรัพย์สินสร้อยทองรูปพรรณ จำนวน 40 เส้น น้ำหนัก 33.5 บาท มูลค่าประมาณ 1.3 ล้านบาท โดยนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งคลองชลประทานบ้านในไร่ หมู่ที่ 3 ต.เวียง อ.ไชยา ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567 นั้น

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย , พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8 ,  พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุมี

1.นายเอ(นามสมมุติ) อายุ 38 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี หัวหน้าแก๊ง ทำหน้าที่บุกปีนเข้าไปกวาดเอาทอง 2.นายซี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ถืออาวุธปืน 2 กระบอกทำหน้าที่คุ้มกันก่อเหตุ 3.นายบี 33 ปี ทำหน้าที่ดูเป้าหมาย 4.นายดี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ทำหน้าที่ดูต้นทาง ส่วนคนที่ 5.นายเค (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์มารับคนร้ายที่จุดทิ้งอำพรางรถในคลอง ยังจับตัวไม่ได้

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวว่า คดีนี้ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.สส.ภ.8 ร่วมกับ กก.5 ป.,กก.สส.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี และ สภ.ไชยา เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยพบว่ามีคนร้าย ทั้งหมด 5 คน ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 14-15 ปีอยู่ 2 คน ทั้งหมดเป็นชาว อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับและหมายเรียกในข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

จากการสืบสวนทราบว่า นาเอ (นามสมมุติ) ซึ่งก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นหนี้พนันออนไลน์ 2 ล้านบาท จึงเดินทางกลับมายัง จ.สุราษฎร์ธานี และคิดปล้นร้านทองหาเงินใช้หนี้ แต่ไปดูลาดเลาแล้วไม่สามารถลงมือได้ จึงมาบอกนายบี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นญาติและมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติด ให้ร่วมก่อเหตุ และได้ชักชวนกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกน้องส่งยาเสพติดอยู่แถวชุมชนใต้โค้ง ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน ร่วมก่อเหตุแบ่งหน้าที่กันทำงาน ซึ่งนายเอ (นามสมมุติ) คนวางแผนและตัวการสำคัญหลบหนีตามไปจับกุมได้ที่ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม อีก 3 คนจับได้ในพื้นที่ อ.พุนพิน และเหลือเยาวชนอายุ 14 ปีจะได้ตัวเร็วๆนี้

ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันวางแผนโดยมาดูเป้าหมายก่อนลงมือก่อเหตุ 1 สัปดาห์ หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนี และนำทองคำที่ปล้นมาได้ไปขายที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออก จากนั้นนำทองคำและเงินที่ได้จากการขายมาแบ่งกัน โดยตำรวจใช้เวลา 10 วันสามารถปิดคดีได้ซึ่งนายเอ (นามสมมุติ) ตัวหัวโจกเป็นผู้ชักชวนชี้นำเยาวชนที่เปราะบางมีปัญหามาจากครอบครัวร่วมก่อเหตุด้วยความฮึกเหิมและคึกคะนอง เป็นที่น่าวิตกห่วงใยมาก ” พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าว

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม