หน้าแรก > ภูมิภาค

ช่างสักร้องสื่อ ถูกรุมทำร้าย 8 ต่อ 1 คลิปภาพวงจรปิดก็ชัด ผ่านมา 5 เดือนคดีไม่คืบ หวั่นถูกทำร้ายซ้ำ

วันที่ 26 มกราคม 2567 เวลา 01:15


ช่างสักร้องสื่อ ถูกรุมทำร้าย 8 ต่อ 1 คลิปภาพวงจรปิดก็ชัด ผ่านมา 5 เดือนคดีไม่คืบ หวั่นถูกทำร้ายซ้ำ

เวลา 16.00 น.วันที่ 25 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนาย ก. (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี เจ้าของร้านสักแห่งหนึ่ง กรณีกลุ่มวัยรุ่นชายซึ่งเป็นพ่อค้าขายของที่ตลาดเเห่งเดียวกัน จำนวน 8 คนก่อเหตุรุมทำร้ายประมาณ 10 นาที ทำให้บริเวณดั้งจมูกหัก เปลือกตาข้างซ้ายแตกเย็บ 10 เข็ม หลังเกิดเหตุพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า รักษาอาการบาดเจ็บประมาณ 4 เดือน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งเเต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 23.00 น. ภายในตลาดนัดแห่งหนึ่งย่าน ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ผ่านไปนาน 5 เดือน คดีไม่คืบหน้า กลุ่มผู้ก่อเหตุยังลอยนวล หวั่นกลับมาทำร้ายซ้ำ

กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะกลุ่ม ผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุตั้งแต่ 20-35 ปี พร้อมอาวุธปืน มีด ท่อนเหล็ก เดินมาที่หน้าร้านดังกล่าว จากนั้นเข้ามารุมทำร้ายนาย ก. จนสะบักสะบอม ขณะเดียวกัน 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่สวมเสื้อสีดำได้ทำท่าจะชักอาวุธที่อยู่ในกระเป๋าออกมา จากนั้นก็ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป

นาย ก. อายุ 33 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า วันเกิดเหตุมีวัยรุ่นประมาณ 8 คน เดินมาหาแล้วเรียกให้ออกมาที่หน้าร้าน ตอนแรกคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร พอออกมาก็โดนรุมทำร้าย ส่วนผู้ก่อเหตุทั้ง 8 คน ตนรู้จักแค่บางคนเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้สนิท ก่อนที่จะเกิดเรื่อง 3 วัน กลุ่มคู่กรณีได้มีการมาพูดคุยกับตนก่อน โดยนัดเคลียร์กันเรื่องที่เขาหาว่าตนเองไปมีปัญหาที่หน้าร้าน ไปพูดว่าเขาที่หน้าร้าน แต่ในความเป็นจริงถ้าเราไปว่าเขาจริงมันก็ควรจะมีปัญหาตั้งแต่วันนั้นแล้ว ไม่ใช่ผ่านมาสามเดือนแล้วถึงจะมากระทืบกันแบบนี้

วันเกิดเหตุตนโดนทำร้าย ประมาณ 10 นาที สังเกตเห็นอาวุธ มีดเหล็กปืน ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บที่บริเวณดั้งและเปลือกตา ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มรักษาตัวหลายเดือน และต้องปิดร้านขาดรายได้เป็นเวลา 4 เดือน โดยระหว่างที่ปิดร้านก็ต้องจ่ายค่าเช่าที่เดือนละ 8,000-9,000 บาท ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนหนักมาก ทั้งค่าบ้าน ค่ารถ และค่าเช่าที่ร้านรวมกว่าครึ่งเเสน ซึ่งที่ผ่านมาฝั่งคู่กรณีไม่ได้มีการติดต่อเข้ามาพูดคุยหรือไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด แต่มาแอบส่องทางโซเชียลเพื่อดูความเคลื่อนไหวของตนเอง บางทีก็มาซื้อของและเดินผ่านหน้าร้านเพื่อให้เห็นว่าเขายังอยู่ปกติดีเหมือนเดิม หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความที่ สภ. รัตนาธิเบศร์ ซึ่งตอนนี้ผ่านไป 5 เดือนแล้วคดีล่าช้ามาก ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานไวกว่านี้ เพราะตอนนี้เดือดร้อนมาก

นาย ก. กล่าวอีกว่า ตนเองเป็นผู้เสียหาย บางทีก็ต้องยืนข้างผมบ้างสักหน่อย ตอนนี้รู้สึกกลัวมากสภาพจิตใจก็ยังย่ำแย่อยู่ ช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นเวลาที่คนกำลังพลุกพล่าน มันไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเลย และทุกวันนี้ก็ต้องเปิดร้านอยู่เพียงลำพัง เกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นตนเองอีก

พิรฎา 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม