25 มกราคม 2567 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยงานด้านสุขภาพของสหประชาชาติระบุเมื่อวันอังคารว่า ผู้ป่วยโรคหัดในยุโรปเพิ่มขึ้นเป็น 42,200 รายในปี 2566 เพิ่มขึ้นเกือบ 45 เท่าจากปีก่อนหน้า พร้อมเรียกร้องให้ฉีดวัคซีนเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจาย

นอกเหนือจากจำนวนผู้ป่วยโรคหัดซึ่งเพิ่มขึ้น ดับเบิลยูเอชโอ ยังพบว่ามีผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล เพื่อรักษาโรคนี้เกือบ 21,000 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย

ทั้งนี้ มีรายงานผู้ป่วยโรคหัดใน 40 ประเทศ จาก 53 ประเทศสมาชิกของดับเบิลยูเอชโอ ประจำภูมิภาคยุโรป รวมถึงรัสเซีย และเอเชียกลาง โดยรัสเซียและคาซัคสถานมีจำนวนผู้ป่วยโรคหัดมากที่สุดราว 10,000 คน ส่วนในภูมิภาคยุโรปตะวันตก สหราชอาณาจักรมีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดที่ 183 คน

นอกจากนี้ WHO ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเกือบ 21,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัด 5 ราย WHO กล่าวว่า “เรื่องนี้น่ากังวล” ทารกประมาณ 1.8 ล้านคนในทวีปยุโรปของ WHO ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดระหว่างปี 2020 ถึง 2022

ดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า อัตราการฉีดวัคซีนต้านโรคหัดลดลงทั่วโลก ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 และจำเป็นต้องมีความพยายามในการฉีดวัคซีนอย่างเร่งด่วน เพื่อหยุดยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป

“มันมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกประเทศต้องเตรียมพร้อม ในการตรวจหาโรคอย่างรวดเร็ว และตอบสนองต่อการระบาดของโรคหัดอย่างทันท่วงที เนื่องจากการดำเนินการที่ล่าช้า อาจเป็นอันตรายต่อความคืบหน้าในการกำจัดโรคหัดได้”

ที่มา AFP