สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้พูดคุยกับคนร้าย ผ่านแอปฯ jack’d ซึ่งเป็นที่นิยมของชาว LGBTQ และอ้างตัวเป็นนักลงทุนชาวมาเลเซีย โปรไฟล์ดี มีบริษัทที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย ต่อมาจึงชวนผู้เสียหายร่วมลงทุนเทรดเงินดิจิทัล โดยอ้างว่ามีพี่สาวอยู่ในวงการ รู้ข้อมูลว่าช่วงไหนจะได้กำไร หรือช่วงไหนจะขาดทุน

ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงร่วมลงทุนโดยโอนเงินเข้าบัญชีของแอดมิน (บัญชีม้า) เพื่อเทรดเงินสกุล ETC CLASSIC และมีผลตอบแทน เมื่อได้กำไรจะมีการโอนเงินคืนจากบัญชีแอดมินสู่บัญชีของผู้เสียหาย ซึ่งช่วงแรกก็ได้ผลตอบแทนตามที่ตกลงกัน แต่ช่วงหลัง คนร้ายออกอุบายว่าการจะถอนผลกำไรคืน จะโอนเงินแบบปกติไม่ได้แล้ว ต้องให้ผู้เสียหายไปซื้อเงิน USDT จากแพลตฟอร์ม BINANCE เพื่อทำการ Rechange money จากแพลตฟอร์มปลอมชื่อ AGB ทำให้ผู้เสียหายสูญเงินนับล้าน

จากการสืบสวนทราบว่า เงินของผู้เสียหายได้มีการโอนโยกย้าย ผ่านบัญชีม้าหลายบัญชี ซึ่ง น.ส.เอ (นามสมมุติ) เป็นหนึ่งในบัญชีม้า แถวที่ 3 จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีหมายจับจำนวน 2 หมายจับ และพบมูลค่าความเสียหายกว่าสามล้านห้าแสนบาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 มอบหมายให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ราชัน ลำใย รอง ผกก.2 บก.สอท.4 เข้าจับกุม น.ส.เอ ในความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และ โดยทุจริตหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด" โดยจับกุมได้ในพื้นที่อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจไซเบอร์ขอเตือนพี่น้องประชาชน การเปิดบัญชีให้ผู้อื่นนำไปใช้ มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาตรา 9 โทษจำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ