หน้าแรก > การเมือง

จี้ กกต.เร่งนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญสอบ พรรคภูมิใจไทย ต้องยุบพรรคหรือไม่

วันที่ 24 มกราคม 2567 เวลา 12:30 น.


"ศรีสุวรรณ" จี้ กกต.เร่งนำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญสอบ พรรคภูมิใจไทย ต้องยุบพรรคหรือไม่ จากกรณี ศักดิ์สยาม

24 ม.ค.67 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้เร่งตรวจสอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 17 ม.ค.67 มาไต่สวนว่าการรับเงินบริจาคจากบริษัทที่เป็นนอมินีของ ศักดิ์สยาม เลขาธิการพรรค โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.72 ของ พรป.พรรคการเมืองหรือไม่

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 7 ต่อ 1 วินิจฉัยให้ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีเนื่องจาก “ซุกหุ้น” หรือฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ม.187 ประกอบ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วน และหุ้นส่วนของรัฐมนตรี 2543 มาตรา 4(1) ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ ม.170 วรรค 1 (5) แล้วนั้น แต่เนื่องจาก คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญ ม.211 วรรคสี่ ประกอบ ม.5 ซึ่งในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่า ช่วงเวลาภายหลัง ศักดิ์สยามโอนหุ้น หจก.บุรีเจริญฯ ให้ ศุภวัฒน์ ถือครองแทนนั้น หจก.ดังกล่าวมีการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้กับพรรคภูมิใจไทย ที่มี ศักดิ์สยามดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคหลายต่อหลายครั้ง

โดยในยุคที่ ศักดิ์สยาม เป็น รมว.คมนาคม อยู่นั้น หจก.บุรีเจริญฯ ก็รับประมูลงานของกระทรวงระหว่างปี 2562-2564 รวม 104 โครงการมูลค่า1,568 ล้านบาท จะถือเป็นการได้ประโยชน์จากการก่อสร้าง หรือประมูลงานจากรัฐ ซึ่งเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาดังกล่าว อาจถือได้ว่าต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.184 และ ม.185 และหรือ ม.186 อันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ อาจเข้าข่ายต้องห้ามตาม ม.66 วรรคสอง รวมทั้งฝ่าฝืน ม.72 แห่ง พรป.พรรคการเมือง 2560 ที่ห้ามพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า กรณีดังกล่าวจะถือว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 

กรณีดังกล่าว จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของ นายทะเบียนพรรคการเมืองและ กกต.ที่จะต้องเร่งดำเนินการไต่สวนหรือสอบสวนให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว และหากวินิจฉัยว่าฝ่าฝืนให้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งลงโทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปีและเป็นเหตุให้พรรคดังกล่าวถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคได้ ตาม ม.92(3) ของ พรป.พรรคการเมือง 2560
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม