วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 04:25 น.
จากกรณีที่นักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวีดีโอใน TikTok ของจีน ว่า ถูกหญิงไทยใช้เท้าถีบและใช้มีดฟันแขน หลังจากที่นักท่องเที่ยวจีนครอบครัวหนึ่ง เดินทางมาจากเมืองหางโจว มาเที่ยวภูเก็ต และได้ไปซื้อเพจเกจทัวร์กับบริษัทแห่งหนึ่งที่หาดกะตะไปเที่ยวเกาะสิมิลัน ในราคา 9,000 บาท และได้ชำระเงินมัดจำไป 5,000 บาท เมื่อถึงวันไปเกาะสิมิลัน บริษัทนำเที่ยวไม่ได้มารับตามนัดหมาย โดยอ้างว่าไปผิดโรงแรม จึงไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อขอเงินมัดจำคืน บริษัททัวร์ยอมคืนเงินให้ 3,000 บาท นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด จึงเกิดมีปากเสียงกัน ทางคนของบริษัททัวร์ได้ข่มขู่และทำร้ายร่างกายทั้งถีบและใช้มีดฟันที่แขน จึงไปแจ้งตำรวจอีกครั้ง แต่นักท่องเที่ยวบอกว่าผิดหวังกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ไปขอความช่วยเหลือ
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (6 ก.พ.66) ที่ สภ.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรน พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3 พร้อมด้วย นายนภดล อาวุธธรรมปรีชา นายทะเบียนสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 จ.ภูเก็ต และ ร.ต.อ.ภีรวัฒน์ ยอดต่อ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กะรน ได้สอบปากคำ น.ส.วิริย์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายด้วยการใช้มีดฟันแขนนักท่องเที่ยวชาวจีน ในคลิปตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทที่จำหน่ายแพ็กเกจทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายกัน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปเชิญตัว น.ส.วิริย์ มาให้ปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวในเวลาต่อมา เบื้องต้นมีการตรวจยึดมีดพกที่เป็นอาวุธใช้ในการทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวจีนดังกล่าวถูกเก็บไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ของ น.ส.วิริย์ ไว้เป็นหลักฐาน โดยในชั้นสอบสวน น.ส.วิริย์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนที่ปรากฎในคลิปและทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวจีน พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
ส่วนกรณีการตรวจสอบใบอนุญาตบริษัทจำหน่ายแพ็กเกจท่องเที่ยวนั้น เบื้องต้นมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเข้าข่ายความผิดในการพักใช้ใบอนุญาตบริษัทท่องเที่ยวหรือไม่ อย่างไรต่อไป
พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรน กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ คือ เกิดจากความเข้าใจผิดในเรื่องการนัดหมายจึงกลายมาเป็นความขัดแย้ง โดยทางคู่กรณีได้มีการไปเจรจากันเองแต่ตกลงกันไม่ได้ จนเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน และผู้ต้องหาให้การว่าทำร้ายร่างกายกันจริง โดยมีการกระทบกระทั่งกันก่อนที่จะมีภาพปรากฏในติ๊กต๊อกที่เผยแพร่กันอยู่ ซึ่งในส่วนของตำรวจ สภ.กะรน ได้มีการเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในภาพ โดยมีการสอบปากไปแล้วและนัดหมายให้มาเจอกันอีกครั้ง เนื่องจากตกลงกันไม่ได้ ซึ่งขณะนั้นนักท่องเที่ยวแจ้งว่าจะขออยู่ต่อ หลังจากนั้น (ยังไม่ถึงวันนัดหมาย) ทางตำรวจได้รับแจ้งว่านักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกาย เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายในขณะนั้นไม่มีล่ามจึงใช้กูเกิ้ลทาร์นสเลจ ซึ่งนักท่องเที่ยวเข้าใจ และนัดหมายกันอีกครั้ง พร้อมส่งตัวไปตรวจบาดแผล ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลจากแพทย์
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.คุณเดช กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันจากเหตุของการให้บริการ และให้การที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย และพกพาอาวุธมีด ส่วนจะแจ้งเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจบาดแผลก่อนว่าเป็นอย่างไร และจะนำตัวส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.66)
ทางด้าน นายนภดล อาวุธธรรมปรีชา หัวหน้าสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้เขต 2 กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางผู้ว่าฯ ได้เน้นย้ำให้ดูระเบียบและข้อบังคับของกฎหมายให้ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบหาข้อเท็จจริงว่า เกิดอะไรขึ้น แต่ในเบื้องต้นทางบริษัทฯ มีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าผิดระเบียบหรือข้อกฎหมายใดๆ ทางสำนักงานทะเบียนฯ ก็จะดำเนินการตามกฎหมายที่กำหนด โดยอาจจะมีการปรับหรือพักใช้ใบอนุญาต ซึ่งต้องขอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
เครดิต Phuket Hotnews