สืบเนื่องจากผู้เสียหายถูกคนร้ายอ้างว่าตนว่าชื่อ ลิน ประกอบอาชีพค้าขายเสื้อผ้า อยู่จังหวัดนครสวรรค์ ชักชวนให้ลงทุนเทรดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ผ่านทางแพลตฟอร์มชื่อ C.P.GROUP ผู้เสียหายหลงเชื่อและได้ลงทุนเทรดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว แล้วได้โอนเงินเพื่อไปลงทุน จำนวนทั้งหมด 4 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 1,196,999 บาท แต่ภายหลังไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงทำให้ได้รับความเสียหาย จึงเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสืบสวนคดีนี้เป็นความผิดที่มีแผนประทุษกรรมเรียกว่า ไฮบริดสแกม หรือ อินเวสเมนท์สแกม กล่าวคือ กลุ่มคนร้ายจะติดต่อผู้เสียหายผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อหลอกลวงให้หลงรัก จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็จะชักชวนผู้เสียหายลงทุนในประเภทต่างๆ ตามแต่กลุ่มคนร้ายจะหลอกลวง

ในกรณีนี้ เป็นการหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนในแพลตฟอร์มที่กลุ่มคนร้ายสร้างขึ้นมาเพื่อใช้หลอกลวง โดยคนร้ายจะอ้างว่าตนเองมีความรู้ในการลงทุน และจะเป็นผู้สอนให้ผู้เสียหายทำตามที่คนร้ายบอก เมื่อผู้เสียหายสนใจก็จะส่งลิงก์ให้สมัครสมาชิก เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ เมื่อลงทุนแล้วได้กำไร ผู้เสียหายบางรายสามารถถอนทรัพย์สินได้ในช่วงแรก แต่เมื่อลงทุนในจำนวนที่มากขึ้น ก็จะไม่สามารถถอนทรัพย์สินได้ คนร้ายจะใช้ข้ออ้างต่างๆ เช่น ต้องชำระค่าภาษีหรือค่าธรรมเนียมก่อน หรือจะต้องเพิ่มการลงทุนให้มากขึ้น เป็นต้น

กระทั่งตำรวจได้ควบคุมตัว นายคอ (นามสมมุติ ) อายุ 18 ปี ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนสาธารณะซอยพูลศรี 1 ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

จากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้น พบว่านายคอ มีชื่อติด blacklistseller หรือบัญชีเฝ้าระวัง และยังมีหมายจับค้างเก่าที่มีผลบังคับใช้เพิ่มอีก 2 หมายจับ

ทั้งนั้  โดยนายคอ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับค้างเก่านี้จริง และยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับค้างเก่านี้มาก่อน จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ชุดสืบสวนทำการสืบสวนขยายผลกับคดีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม