สืบนครบาล ตามรวบ "หนูวังหิน“ รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้แก๊งพนันออนไลน์ ได้ค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3 ร่วมกันจับกุม หนูวังหิน อายุ 47 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2566 ความผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" จับได้ที่จุดก่อสร้างเมรุ วัดสุวรรณภักดี หมู่ที่ 4 ตำบลท่ากุ่ม อำเภอเมือง จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 18 ม.ค.67

ผู้ต้องหาให้การว่าเมื่อปี 2565 ได้มีคนมาชักชวนให้เปิดบัญชี โดยผู้ต้องหาแจ้งว่า คนที่ชักชวนเปิดบัญชีนั้น รู้จักกันแต่ไม่สนิทใจ อีกทั้งคนชักชวนมาถึงยังท่ารถวินที่ตนขับอยู่ในละแวกนั้น จึงใจอ่อนยอมเปิดให้ โดยบอกว่าจะนำไปรับเงินเว็บพนัน คาสิโน สล๊อต และย้ำกับตนว่า "ไม่อันตราย" จึงเปิดให้ ผู้ต้องหายังให้การว่าช่วงปี 2564-2565 ยังไม่มีข่าวในเรื่องกลุ่มบัญชีม้า ระบาดหนักแบบนี้ เปิดไปรวมจำนวน 4 บัญชีธนาคาร ได้รับเงินค่าจ้างบัญชีละ 500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,000 บาท ซึ่งผู้ชักชวนนำโทรศัพท์มือถือมาให้ 1 เครื่องแล้วให้ตนไปเปิดบัญชีที่ธนาคารให้ ไม่ว่าจะ ATM สมุดบัญชี รหัสผ่านหน้าตู้ หรือแม้แต่อีเมลล์ ตนได้มอบให้ผู้ชักชวนเปิดบัญชีจริงด้วยตนเอง จากนั้นตนก็ถูกผู้ชักชวนบล็อคการติดต่อในทุกๆ ช่องทาง

ผู้ต้องหาให้การอีกว่า เดิมตนพักอาศัยที่ลาดพร้าว พอมีหมายเรียกไปยังที่อยู่บัตรประชาชน ตนก็ไม่ได้ไปตามหมายเรียก จนเจ้าหน้าที่ออกหมายจับส่งไปยังบ้านในท้องที่บางบัวทอง นนทบุรี เมื่อภรรยาทราบว่า มีหมายจับ ก็ต่อว่าตนทันที ตนจึงหนีไปพักอาศัยในเขตลาดปลาเค้า กรุงเทพฯ จากนั้นเป็นเวลาร่วมปีที่ตนทำงานรับจ้างทั่วไป เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เดินทางไปมาทำงานอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ อย่างทุกข์และกังวลใจ

จากนั้นในช่วงปลายปี 2566 จึงหลบหนีและมาพักอาศัยหางานทำ ยังพื้นที่ อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด เพื่อเป็นช่างปั้นงานศิลป์ตามวัดในชุมชน หวังให้การบำเพ็ญสร้างศิลปะเหล่านี้จะช่วยบรรเทาโทษ ให้ได้รับอานิสงส์ผลบุญ ที่ตนรับจ้างต่อเติมพระเมรุ ให้ตนรอดจากสายตาเจ้าหน้าที่ชุดสืบจับกุม โดยตั้งแต่เช้าวันนี้ ที่ตนออกจากบ้านพักมาทำงาน ตนใจคอไม่ดี รู้สึกวันนี้มีใจสั่นๆ เมื่อเห็นชุดเจ้าหน้าที่ลงมาจากรถ จึงอุทานว่า “เกมส์แล้ว”

นอกจากนี้จากการตรวจสอบหมายจับในฐานระบบผู้ต้องหายังมีหมายจับอีก 2 หมาย

1.หมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 16 มีนาคม 2565 ข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง (สน.พหลโยธิน)

2.หมายจับศาลแขวงพิษณุโลก ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2565 ข้อหา เป็นตัวการร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและร่วมกันฉ้อโกง (สภ.เมืองพิษณุโลก)

จากนั้นจึงได้ทำการบันทึกจับกุมและส่งตัวผู้ต้องหา ให้พนักงานสอบสวน สภ. รัตนาธิเบศร์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป