วันที่ 16 มกราคม 2567 เวลา 10:49 น.
สืบนครบาลเข้าค้นจำนวน 2 จุด จับกุมนายวี (นามสมมุติ) อายุ 37ปี และนางสาวเจ(นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ฐาน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังเข้าตรงจค้นบ้านพักใน ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี พบอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาด .380 เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 40 รายการ จุดที่ 2 เข้าทำการตรวจค้นบ้านใน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ยึดอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลง และ ของกลางจำนวน 16 รายการ
สืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออน์ไลน์ สืบนครบาล ได้สืบสวนเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนชนิดต่างๆ ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงขนาดต่างๆ ได้ทางโลกโซเชียล และส่งทางพัสดุไปรษณีย์ จึงได้ทำการเฝ้าสืบสวนติดตามพฤติกรรม จนพบสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นสถานที่จัดส่งพัสดุซึ่งภายในบรรจุอาวุธปืนเพื่อส่งขายให้ผู้ที่สั่งซื้อผ่านกลุ่มลับ ตลอดจนสถานที่ซึ่งใช้เป็นสถานที่ผลิดอาวุธปืน ชิ้นส่วนอาวุธปืน และที่ซุกซ่อนอาวุธปืนที่ผลิตเสร็จเพื่อรอส่งขายให้แก่ลูกค้า จำนวน 2 จุด จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัดสระบุรีเพื่อพิจารณาอนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าตรวจค้นจับกุมความผิด
จากการสอบสวน นายวี (นามสมมุติ) ให้การว่า เดิมทีทำงานรับเหมาก่อสร้าง , พนักงานโรงงานเกี่ยวกับทำเหล็ก จนมีประสบการณ์เกี่ยวกับการอ๊อก เชื่อม กลึงเหล็ก จนเมื่อประมาณต้นปี 2566 ตนมีปัญหาสุขภาพ ทั้งด้านสายตา และโรงเบาหวาน จึงได้ลาออกจากงานประจำในโรงงานที่ทำ ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่ตนจะลาออกจากงานตนมีความสนใจเกี่ยวกับการทำอาวุธปืนดัดแปลงจากปืนแบลงค์กัน โดยศึกษาดูวิธีการช่องยูทูบ และได้มีโอกาสฝึกทำระหว่างเลิกงานจนสามารถใช้ยิงกระสุนจริงได้ สามารถทำได้ดี จึงหันมารับจ้างทำเป็นอาชีพหลักและเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกลุ่มลับ โดยตนได้ทำห้องไว้สำหรับผลิต ดัดแปลง อาวุธปืนแบลงค์กันให้สามารถยิงกระสุนจริงได้ไว้ที่บ้านในจังหวัดสระบุรี ซึ่งได้ดัดแปลงเอาห้องน้ำเก่าของบ้านที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาเป็นโรงงานผลิต และส่งขายให้แก่ลูกค้าซึ่งมีการสั่งซื้อทางออนไลน์ที่ผ่านมาทำมาแล้วกว่า 6 เดือน มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อมากพอสมควร ขายกระบอกละ 16,000 บาท กำไรหลังจากหักต้นทุนแล้วตกเฉลี่ยกระบอกละ 8,000 บาท ในส่วนลำกล้องปืนและโม่ปืนดัดแปลง ขายชิ้นละ 1,500 ถึง 2,000 บาท รวมรายได้ต่อเดือน/เดือนละกว่า 120,000 บาท (หนึ่งแสนสองหมื่นบาท) เงินที่ได้มานำมาใช้จ่ายในครอบครัวและนำไปให้ นางสาวเจ ซึ่งเป็นภรรยาลงทุนขายลูกชิ้นหมาล่าในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ที่เกี่ยวข้องกับคดี นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน
15 พฤศจิกายน 2567
เปิดผลตรวจ "แมวแม่หยัว" เผยผู้เชี่ยวชาญที่อ้างตอนวางยา ไม่ใช่สัตวแพทย์
15 พฤศจิกายน 2567
ไฟไหม้กองขยะ ย่านซอยโชคชัย 4 แล้วลุกลามรถยนต์ที่จอดใต้อาคารเสียหาย 3 คัน