10 ม.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากทางคณะกรรมการสำนักงานพิงคนคร ที่ควบคุมดูแลเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ว่า ได้มีนักท่องเที่ยวร้องและโพสต์ผ่านทางเพจของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ว่า

สัตว์ป่าในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี มีน้อยมาก นักท่องเที่ยวเข้ามาชมต่างผิดหวัง เพราะมีสัตว์ป่าที่หายากและที่ราคาแพงเหลือน้อยมาก ไม่คุ้มกับการเข้ามาเที่ยวชมเลย ต่อมาทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และทางสำนักงานพิงคนคร ที่ดูแลกำกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารวมกับคณะกรรมการพิงคนครฯ ได้มีการประชุมตรวจสอบ

โดยทางสัตว์แพทย์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รายงานในที่ประชุมว่า เดือนธันวาคม 2566 สัตว์ป่าในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ทั้งหายากและราคาแพง ได้ล้มตายถึง 13 ตัว โดยในจำนวนดังกล่าวมีเสือโคร่งขาว ตัวใหญ่ ได้ล้มตายด้วย ทางทีมสัตว์แพทย์ฯ ได้รายงานว่า สาเหตุของการเสียชีวิตของเสือโคร่่งขาว เพราะหมดอายุขัย
ก่อนหน้านั้น มีลูกเสือโคร่งขาวเกิดได้ไม่ถึง 10 เดือนก็ตาย ทางสัตว์แพทย์ได้รายงานว่า สภาพไม่แข็งแรงติดเชื้อทำให้ตาย ก่อนหน้านั้นสัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ตายและหายสาบสูญจำนวนมาก ทางทีมสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็รายงานบอกว่า ถูกงูเหลือมกินทำให้ไม่สามารถตรวจสอบซากได้ ซึ่งถือว่าเป็นข้ออ้างและถูกตรวจสอบอย่างละเอียด

กระทั่งล่าสุด เดือนธันวาคม 66 อ้างว่าสัตว์หมดอายุขัย เป็นโรค ล้มตายเป็นเรื่องของธรรมชาติสัตว์โลก เรื่องนี้อยากให้ทาง นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน สั่งการให้รัฐมนตรี ที่ดูแลควบคุมสำนักงานพิงคนครและเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ลงมาตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะหากไม่รีบดำเนินการหาทางแก้ไข จะทำให้สัตว์ป่าในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ลดน้อยลงเรื่อยๆ เสียชื่อเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังติดอันดับต้นๆ ของโลกแหล่งท่องเที่ยวของไทย เพราะทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวเข้าชมในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000 คน

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ว่า ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ดำเนินการหาวิธีเพิ่มจำนวนสัตว์ป่า โดยใน วันที่ 9 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เดินหน้าทำโครงการ เพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์ป่าที่สำคัญและหายาก

นางสาวฐิติรัตน์ ต๊ะวันวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนสัตว์ป่าหลายชนิดที่มีการลดลงอย่างต่อเนื่องในธรรมชาติ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จึงได้ร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินการรีดน้ำเชื้อสัตว์ป่าหายากที่มีความสำคัญของประเทศไทย ได้แก่ สมเสร็จมลายู (Malayan Tapir) และหมีหมา (Malayan Sun Bear) เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำเชื้อ และทำน้ำเชื้อแช่แข็ง เพื่อนำมาใช้ช่วยในการวางแผนประชากรสมเสร็จมลายูและหมีหมาโดยการผสมเทียมต่อไป

นอกจากสัตว์ 2 ชนิดนี้แล้ว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังได้ทำการรีดเก็บน้ำเชื้อของสัตว์ป่าอีกหลายชนิดเก็บรักษาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ต่างประเทศ เช่น ไฮยีน่าลายแถบ เสือโคร่งเบงกอล เสือจากัวร์ หรือสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองของประเทศไทยเอง เช่น กวางผา เลียงผา เสือไฟ เสือดาว ฯลฯ เป็นต้น โดยเป็นโครงการต่อเนื่องในการวิจัยและอนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์ป่าหายากของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และเพื่อช่วยอนุรักษ์พันธุ์ของสัตว์เหล่านี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไป