วันที่ 9 มกราคม 2567 เวลา 14:39 น.
วันที่ 9 ม.ค. 2567 คณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเครื่องบินของสายการบิน อลาสก้า แอร์ไลน์ หลังเกิดเหตุชิ้นส่วนลำตัวหลุดออกกลางอากาศ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยพบชิ้นส่วนดังกล่าวตกอยู่ที่สวนหลังบ้านของครูคนหนึ่งในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน
เจ้าหน้าที่สอบสวน เปิดเผยว่า สายการบิน อลาสก้า แอร์ไลน์ส สั่งห้ามนำเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ 9 ลำที่เกิดเหตุชิ้นส่วนลำตัวหลุดออกกลางอากาศไปใช้การเพื่อบินในเส้นทางที่ต้องบินเหนือน้ำเป็นเวลานาน หลังจากนักบินจำนวนหนึ่งรายงานว่าเครื่องบินลำนี้แสดงสัญญาณไฟเตือนเกี่ยวกับระบบการปรับความดันบรรยากาศใน 3 เที่ยวบิน
คำสั่งห้ามนำเครื่องลำเกิดเหตุไปบินในเส้นทางที่ต้องเดินทางเหนือน้ำเป็นระยะทางยาว ๆ เพื่อให้สามารถบินกลับไปลงจอดยังสนามบินได้โดยเร็ว หากเกิดสัญญาณไฟเตือนขึ้นอีก แต่ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า สัญญาณเตือนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบินหลุดออกกลางอากาศหรือไม่
เจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยว่า มีคำขอให้ตรวจสอบซ่อมบำรุงในส่วนนี้เพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนจะเกิดเหตุขึ้น ซึ่งเครื่องบินลำเกิดเหตุเพิ่งจะส่งมอบให้แก่สายการบินนี้ เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์คือเทปบันทึกเสียงในห้องนักบินที่ไม่มีข้อมูลใดๆ ขณะเกิดเหตุหลงเหลืออยู่ เนื่องจากมีวงจรการบันทึกเสียงทับข้อมูลเดิมทุก 2 ชั่วโมง ทำให้เสียงขณะเกิดเหตุถูกลบออกไป ส่งผลให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ปรับมาตรฐานการบันทึกเสียงให้ยาวขึ้นเป็น 25 ชั่วโมงเหมือนข้อกำหนดในฝั่งยุโรป
ขณะที่องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) สั่งห้ามใช้เครื่องบินรุ่นดังกล่าว กระทบการให้บริการของหลายสายการบิน รวมถึง United Airlines ที่ต้องยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก มีผู้โดยสารตกค้างและพยายามจองเที่ยวบินใหม่ เช่น สนามบินในเปอร์โตริโก ซึ่งผู้โดยสารหลายคนระบุว่า ติดอยู่ที่นี่นานหลายวันแล้ว
ช่วงวันที่ 7 ม.ค. ผ่านมา Alaska Airlines ยกเลิกเที่ยวบิน 170 เที่ยว กระทบผู้โดยสารร่วม 25,000 คน ขณะที่ United Airlines ยกเลิกแล้ว 230 เที่ยวบิน หรือร้อยละ 8 ของเที่ยวบินที่มีกำหนดเดินทางทั้งหมด ล่าสุดมีรายงานว่า United Airlines พบน็อตที่ใช้ยึดชิ้นส่วน door plug ของเครื่องบินรุ่นเดียวกันนี้หลวม และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม
ที่มา https://www.reuters.com/.../no-data-captured-alaska.../