มอบตัวแล้ว หลานชายกระหน่ำยิงอาและอาสาวดับ ปมมรดกที่ดินเลือด 

จากกรณีนายพายัพ อายุ 60 ปี และนางพะเยาว์ อายุ 56 ปี สองพี่น้องถูก นายพิสิษฐ์ อายุ 41 ปี หลานชาย ยิงเสียชีวิต 2 ราย ที่บริเวณหน้าบ้าน ม.10 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8 ม.ค.67 ที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี นายสมศักดิ์ กลั่นเพ็ชร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และนายพนม พึ่งสุขแดง กำนันตำบลบ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้พานายพิสิษฐ์ อายุ 41 ปี ผู้ก่อเหตุยิงอาเสียชีวิต 2 ศพเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บางแม่นาง พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.

โดยนายพิสิษฐ์ รับสารภาพว่าก่อเหตุยิงผู้เสียชีวิตจริง เนื่องจากเขามาด่าตนเมื่อเช้าเรื่องที่ดินที่ตนเองอาศัยอยู่ เขามาไล่ตนให้ออกจากที่ของเขาซึ่งเป็นอา เป็นน้องของพ่อผม ก็มีการเจรจากันมาตลอด คุยกันเขาก็ไม่ยอม ให้ผู้ใหญ่หลายคนเข้าไปคุยเขาก็ไม่ยอม เขาขอ 1 ล้านบาท ตนจะเอาที่ดินที่ญาติพี่น้องรวมมาให้ผมอีกแปลงไปแลกที่ที่ผมปลูกบ้านอยู่ซึ่งเป็นที่ของเขา เขาก็ไม่ยอม ส่วนปืนเป็นปืนของพ่อที่มีอยู่ในบ้านยิงมากี่นัดผมจำไม่ได้

นายสมศักดิ์ กลั่นเพ็ชร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กล่าวว่า บ้านผมอยู่ใกล้เคียงกับบ้านที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียงแต่ไม่ทราบว่าเสียงอะไร เพราะช่วงนี้ทำนากันก็จะมีการไล่นก จากนั้นนายพิสิษฐ์ ผู้ที่ก่อเหตุยิงได้โทรศัพท์มาหาผม แต่ผมเดินไปที่บ้านเขาเขาไม่อยู่แล้วจึงสอบถามแม่เขา ก็เหมือนกับเป็นน้องเป็นญาติกันกับผม แต่คุยโทรศัพท์กันอยู่ผมเลยถามว่าอยู่ที่ไหนเขาบอกขับรถมอเตอร์ไซค์หนีไปขอทันใจ และขอให้ผมช่วยพาไปมอบตัว ผมจึงโทรสอบถามกำนันเขาก็มาส่ง ผมจึงขับรถออกไปก็ไม่ทราบใครมาส่งเห็นเขายืนรออยู่ที่ริมถนนแล้ว แถวย่านไทรน้อย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุคือผู้ก่อเหตุเขาไม่มีที่อยู่ เรื่องนี้ 2 คนที่ตายก็เป็นอาของเขา มีเรื่องฟ้องร้องกันจนคดีถึงที่สุดนายพิสิษฐ์ เขาก็แพ้ฝ่ายคดี ผู้เสียชีวิตเขาก็เลยไล่ที่ต้องรื้อบ้านออกจากที่ดินของผู้เสียชีวิต โดยไม่มีค่ารื้อถอนตามที่ศาลพิพากษา ฝ่ายนายพิสิทธิ์เขาก็ยอมโดยเอาที่ด้านในซึ่งเป็นที่ดินไม่มีทางเข้า แต่ที่ดินมากกว่ามายอมแลกกับที่บ้านที่เขาปลูกอยู่ ไกล่เกลี่ยยังไงก็ไม่ยอมเขาก็ทะเลาะกันอยู่เป็นประจำ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทางฝ่ายผู้ก่อเหตุก็อาจจะเกิดความโมโห เพราะทะเลาะกันบ่อยกับพี่น้องคู่นี้ที่เขาอยู่กันสองคน ส่วนผู้ก่อเหตุอยู่บ้านหลังใหญ่ พ่อเขาเป็นพี่ชายของสองคนนี้ ผู้ก่อเหตุเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรเพียงแต่เขาพูดว่าขอให้มีที่อยู่เท่านั้นเอง มีการพูดคุยประนีประนอมกันหลายรอบ แต่สองพี่น้องก็ยืนกรานไม่ยอมจะเอาที่ตรงนี้ ตรงบ้านของผู้ที่ก่อเหตุสร้างอยู่ เดิมก็เป็นที่ของปู่ของผู้ก่อเหตุ แต่ปู่เขายกให้ลูกคนที่ตายหมดเลย

พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ 1 กล่าวว่า ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ผู้ก่อเหตุกับผู้เสียชีวิตก็เป็นญาติพี่น้องกันสาเหตุเกิดจากเรื่องมรดก โดยผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่ในที่ของผู้ตาย มีการฟ้องขับไล่กันเรียบร้อย แต่ผู้ต้องหาก็ตกลงกันไม่ได้ มีการฟ้องร้องต่อศาลจนคดีสิ้นสุด โดยทางฝ่ายปกครองผู้ใหญ่บ้านก็พยายามไกล่เกลี่ยมาตลอด แต่ก็มีการทะเลาะกันมาต่อเนื่อง

พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า โดยตำรวจก็ลงไปเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพ ที่ก่อเหตุในวันนี้อาจจะเป็นอารมณ์ชั่ววูบจากเหตุที่ทะเลาะกันมานาน ส่วนอาวุธปืนเป็นของบิดาของผู้ต้องหา เป็นอาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผู้ต้องหาได้นำมาก่อเหตุในวันนี้ก็จะทำเรื่องไปที่ฝ่ายปกครองให้เพิกถอนทะเบียน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาเจตนาฆ่าผู้อื่นและพรบ.อาวุธปืน
   
นายพิสิษฐ์ อายุ 41 ปี หลานชาย กล่าวว่า ตนพยายามพูดคุยแล้ว ญาติๆ ก็คุยแต่อาไม่ยอม ตนเอาที่ที่ญาติมอบให้ตนรวมกันไปแลกกับที่อา 1 แปลงที่ตนอาศัยอยู่ แต่อาไม่ยอม เมื่อเช้าเขาสองคนอยู่ด้วยกัน ได้รุมด่าตน ตนจึงโมโหไปหยิบปืนของพ่อยิงเสียชีวิตทั้งคู่ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมทั้งสอบปากคำผู้ต้องกาอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต