เผาแล้วน้องนาย พ่อกอดโลงศพบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย ยันแจ้งความเพิ่มคดีทำร้ายร่างกาย 

จากกรณีน้องนาย ดช.วัย 2 ขวบ เสียชีวิตเป็นศพอยู่ในตู้เย็น ที่บ้านพักย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ม.ค.67

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 8 ม.ค.67 ที่วัดไผ่เหลือง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายนพรัตน์ ดวงงาม อายุ 29 ปี พ่อของน้องนาย ได้เดินทางมาทำพิธีฌาปนกิจศพน้องนาย โดยมีญาติและเพื่อนสนิทร่วมงานเพียง 10 คน ซึ่งนายนพรัตน์ ยังยืนยันไม่เชื่อว่าน้องนายข้าวเหนียวติดคอเสียชีวิต และจะเข้าแจ้งความเพิ่มเติมกรณีที่น้องนายถูกทำร้ายจนร่างกายเขียวช้ำ

นายอ้วน​ อายุ​ 25​ ปี​ อาน้องนายและเคยเลี้ยงน้องนายมา กล่าวว่า ตนเคยอยู่กับน้องนายเห็นหลานทุกวัน พ่อเขามา พ่อน้องนายไม่เคยขังไม่เคยทำร้าย และที่บอกว่าน้องนายติดเห็บมาจนต้องโกนผมเพราะน้องนายไปติดเหาจากเพื่อนบ้านมา พ่อเขาหาวิธีรักษาไม่ได้ จึงโกนผมจะได้ไม่ติดอีก พ่อเขาใส่ใจดูแล ทั้งนม โจ๊ก ข้าว คอยหาให้กินตลอด ถ้าวันไหนพ่อเขาเลิกงานเร็วก็จะพาน้องนายออกไปจับรถจักรยานยนต์เที่ยวเล่น เวลาที่อยู่ด้วยกันพ่อเขาจะออกไปทำงานก็จะฝากข้างห้องเลี้ยง แต่ถ้าวันไหนตนหยุดงานตนก็จะรับเลี้ยงให้ โดยที่บ้านพักกันอยู่ 4-5 คนทุกคนก็จะออกไปทำงานกันหมด ตนเป็นแฟนกับน้องสาวของพ่อน้องนาย เคยมาอยู่ที่บ้านที่กรุงเทพกับน้องนายและพ่อเขาเคยคลุกคลีกับน้องอยู่ประมาณ 2 เดือน ตนเล่นกับน้องเกือบทุกวันจนได้ข่าวว่านายแบงค์ กับ น.ส. ก้อย มาเอาไปเลี้ยง ซึ่งตนก็มีความเป็นห่วง แต่พอรู้ว่าเขาพาไปเที่ยวพาไปกินอาหาร อยู่ดี ตนก็คลายใจบ้าง ตนก็ยังเป็นห่วงหลานเพราะเคยใกล้ชิดกัน ที่เขาอ้างว่าน้องเสียชีวิตเพราะข้าวเหนียวติดคอตนก็ยังไม่เชื่อ ส่วนว่าจะดำเนินการยังไงต่อก็แล้วแต่พ่อเขา และทางคดีก็ให้ตำรวจดำเนินการ ตนอยากให้เขาทั้งสองคนยอมรับว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรมที่เขาทำ

ซึ่งบรรยากาศพิธีฌาปนกิจศพน้องนาย เป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงคนในครอบครัวที่สนิทเท่านั้น โดยก่อนเผาศพน้อง นายนพรัตน์ ได้เดินไปกอดโลงศพเพื่อบอกลาน้องนายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะนำร่างน้องนายเข้าทำพิธีฌาปนกิจซึ่งทุกคนที่ร่วมงานด้วยความโศกเศร้า จากนั้นพระสงฆ์ได้ทำพิธีสวดก่อนนำร่างสู่เมรุ