หน้าแรก > สังคม

รองนายกฯ พบเครือข่ายชาวไทยพุทธ จว.ชายแดนใต้ ยัน ช่วยพัฒนาส่งเสริมคุณภาพชีวิตเต็มที่ ถึงแม้มีประชากรเพียง 17% เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

วันที่ 5 มกราคม 2567 เวลา 04:19 น.


“รองนายกฯสมศักดิ์” พบเครือข่ายชาวไทยพุทธจังหวัดชายแดนใต้ ยัน ช่วยพัฒนาส่งเสริมคุณภาพชีวิตเต็มที่ ถึงแม้มีประชากรเพียง 17% เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขภายใต้วิถีสังคมพหุวัฒนธรรม มั่นใจ พัฒนาชายแดนใต้ดีขึ้น หลังไทย-มาเลเซีย ร่วมกันจับมือเดินหน้า

วันที่ 4 มกราคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้มีโอกาสพบปะกับผู้นำเครือข่ายชาวไทยพุทธจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดยพระครูวรนาถ โพธิคุณ เจ้าอาวาสวัดอรัญวาสิการาม นายกิจจา จันทสิโร ประธานพุทธสมาคม 5 จังหวัดชายแดนใต้ ผู้ได้รับผลกระทบ และเครือข่ายกว่า 60 คน เพื่อหารือถึงแนวทางการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งผู้แทนภาคประชาชน ได้ขอให้ภาครัฐ ช่วยพัฒนาส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น พร้อมขอให้สนับสนุนงบประมาณในการส่งเสริมการเรียนการสอนด้านศาสนาเพิ่มเติม เพราะงบประมาณที่ได้สนับสนุนไม่เพียงพอ ทำให้วัดต้องหาทุนมาเติมเอง จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยสนับสนุน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ถึงแม้ชาวไทยพุทธในจังหวัดชายแดนใต้ จะมีเพียง 771 ชุมชน ประชากร 306,246 คน คิดเป็นร้อยละ 17 ของประชากรทั้งหมด 1.8 ล้านคน แต่ตนได้ยืนยันแล้วว่า จะพัฒนาและสนับสนุนการสร้างความเข้าใจอันดีในสังคมพหุวัฒนธรรม อย่างเต็มที่ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขภายใต้วิถีสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งตนในฐานะกำกับดูแลการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ก็จะมีการส่งเสริมอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ให้ดียิ่งขึ้น โดยเรื่องนี้ ได้มีความคืบหน้าแล้ว หลังตนได้มอบให้ ศอ.บต.สำรวจผู้มีรายได้น้อย พบว่า มีครัวเรือนยากจนถึง 52,117 ครัวเรือน จำนวนคนกว่า 107,356 คน จึงเริ่มเดินหน้าการส่งเสริมอาชีพแล้ว

“การแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ถือเป็นโอกาสดี ที่รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ไทย-มาเลเซีย ได้จับมือพัฒนาพื้นที่ร่วมกันแล้ว หลังท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปพบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย รวมถึงผมได้มีโอกาสพบรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย 2 ท่าน จึงทำให้มั่นใจว่า หากเดินหน้าไปอีกระยะหนี่ง การพัฒนาพื้นที่จะดีขึ้น เพราะทางมาเลเซีย ก็อยากให้มีการพัฒนาพื้นที่ชายแดน เพื่อให้เกิดการค้าการลงทุน ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุรุนแรง เพราะจะเกิดผลกระทบหลายอย่าง ส่วนหากอำเภอไหน สามารถฟื้นฟู สร้างอาชีพ เกิดความสงบสุขได้ ก็จะมีการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน แต่ในทางกลับกัน หากพื้นที่ใดมีเหตุเพิ่มขึ้นหลังยกเลิกให้แล้ว ก็จะมีการกลับมาประกาศ พรก.ฉุกเฉิน อีกครั้ง โดยผมขอยืนยันว่า รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้การพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากที่สุด” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม