หน้าแรก > อาชญากรรม

5 วันอันตราย ดับรวม 212 ราย กรุงเทพฯเสียชีวิตมากสุด สาเหตุหลักขับรถเร็ว

วันที่ 3 มกราคม 2567 เวลา 12:52 น.


วันที่ 3 ม.ค.2567 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายชาครีย์ บำรุงวงศ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2567

โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 ม.ค.ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 266 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 284 คน ผู้เสียชีวิต 21 ราย

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 40.6 ตัดหน้ากระชั้นชิด 23.31 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 14.29 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 87.01 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 86.09 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 46.24 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 32.71

ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-17.00 น. ร้อยละ 8.65 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 30-39 ปี ร้อยละ 19.67 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,792 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,553 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรีและสงขลา (จังหวัดละ12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (17 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สงขลา (3 ราย)

นายชาครีย์ กล่าวว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค. 66 – 2 มกราคม 67) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,839 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 1,860 คน ผู้เสียชีวิต รวม 212 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ กาญจนบุรี (69 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี (73 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ (15 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 17 จังหวัด

นายชาครีย์ กล่าวต่อว่า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเดินทางให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานให้จังหวัดและกรุงเทพฯ ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ อย่างเข้มข้น บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยกวดขันพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
เนื่องจากการเก็บสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 5 วันที่ผ่านมา พบว่าการขับรถเร็วยังคงเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่ยังคงติดค้างในสถานีขนส่งและสถานีรถไฟให้สามารถเดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังคงเดินทางท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ขอให้สถานประกอบการที่ให้บริการให้เช่ารถกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ตรวจสอบการมีใบอนุญาตขับขี่ก่อนให้บริการ รวมถึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยประชาสัมพันธ์ชาวต่างชาติ ทั้งที่เดินทางมาท่องเที่ยวและทำงานในประเทศไทยให้ดำเนินการขออนุญาตมีใบขับขี่หากจำเป็นต้องขับขี่ยานพาหนะ

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า ในวันนี้ยังคงมีการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ และพื้นที่เศรษฐกิจใหญ่ๆ คาดว่าเส้นทางสายหลักมีสภาพการจราจรคล่องตัวขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่ใช้ความเร็วสูงในการขับรถ

ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) จึงได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนตลอดเส้นทางอย่างต่อเนื่อง โดยคุมเข้มผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย รวมถึงประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการขับรถเร็วและง่วงหลับใน

อีกทั้งตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นกับร้านที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นต้นทางของปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วขับในกลุ่มเยาวชน ทั้งนี้ ขอฝากผู้ใช้รถใช้ถนนดูแลสภาพร่างกายให้พร้อมขับขี่ และตรวจเช็คสภาพรถให้ปลอดภัยก่อนออกเดินทางกลับ ไม่ขับรถเร็ว ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม