29 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกเเถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีมีผู้นำเสนอข่าวออนไลน์ที่คลาดเคลื่อนต่อความจริง เรื่อง "ขอดูผ้าอนามัยหน่อย" สภาทนายความ ขอชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าว ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด กล่าวคือเนื่องจากในวันอบรมจริยธรรมได้มีสุภาพสตรีผู้เข้าอบรมจะไปเปลี่ยนผ้าอนามัย เจ้าหน้าที่อำนวยการถามว่า มีผ้าอนามัยสำรองหรือไม่ ถ้าไม่มีให้มารับได้ที่ฝ่ายอำนวยการซึ่งได้เตรียมสำรองไว้ให้

ส่วนเรื่องการเข้าอบรมจริยธรรม 3 ชั่วโมงโดยไม่อนุญาตให้เข้าห้องน้ำไม่เป็นความจริง เพราะช่วงเวลาประมาณ 9.00-10.00 น. หลวงพ่อเป็นผู้อบรมจริยธรรม และต่อจากนั้นนายกสภาทนายความอบรมมรรยาททนายความ ระหว่างรอยต่อการสลับวิทยากร ผู้เข้าอบรมมีการทยอยเข้าห้องน้ำได้ปกติ

สำหรับเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบางคนใช้คำพูดไม่เหมาะสมนั้น เนื่องจากในวันเวลาดังกล่าวต้องคอยดูแลผู้เข้ารับการอบรมจริยธรรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละท่านมีความต้องการแตกต่างกันจึงทำให้เกิดความเครียด อาจมีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม สภาทนายความต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย และจะนำไปแก้ไขปรับปรุงต่อไป

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดอบรมจริยธรรมและมรรยาททนายความให้แก่ผู้ผ่านการอบรมและทดสอบวิชาว่าความรุ่นที่ 60 และผู้ผ่านการฝึกหัดในสำนักงานทนายความมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2566 ที่หอประชุมพ่อขุนรามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง

โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ อรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรีได้มอบประกาศนียบัตร ซึ่งภายหลังรับมอบได้มีเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับกฎหมายเเห่งหนึ่งได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การฝึกอบรมครั้งนี้ว่า ตลอดระยะเวลาการอบรม 3 ชั่วโมง ผู้เข้าอบรมไม่สามารถเข้าห้องน้ำ และผู้หญิงไม่สามารถเข้าห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนผ้าอนามัยได้ โดยทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ถ้าไม่พร้อมอบรมก็ไปเขียนคำร้องอบรมใหม่ปีหน้า และขอดูผ้าอนามัยของผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งการเข้ารับการอบรมมรรยาทและจริยธรรมทนายความเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ ทนายความทุกคนต้องมี หากขาดในข้อนี้ก็ไม่สามารถขอใบอนุญาตว่าความเป็นทนายความได้